กูรูแนะ‘ศาสตร์โค้ช’สู้โลกผันผวน เจาะนักธุรกิจ-ผู้นำ-โค้ชชิ่งมืออาชีพ
เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนต้องปรับตัวตามให้ทันเพื่อนำสู่เป้าหมายความสำเร็จ โดยที่ "ศาสตร์โค้ช" จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือดึงศักยภาพที่ซ้อนเร้นอยู่ในตัวของทุกคนมาใช้ เมื่อวิกฤติมาเยือนจะจัดระเบียบได้อย่างมีสติ
วิกฤติโควิด!สร้างความผันผวนไปทั่วโลกในทุกมิติ พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมายจากแรงกระเพื่อมใหญ่ที่ยังคงอยู่...ยังไม่มีใครเดาได้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ 100% อย่างไรก็ดี บทเรียนและประสบการณ์จากโควิดเอ็ฟเฟ็กต์ครั้งนี้เป็นปัจจัยเร่งสำคัญให้ภาคธุรกิจ ผู้นำองค์กร แม้กระทั่งการใช้ชีวิตของผู้คนต้องหันกลับมาทบทวนความพร้อมและความแข็งแรงในการ “ตั้งรับวิกฤติ" หรือ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ทันท่วงทีและเปี่ยมประสิทธิภาพ!
รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช รองอธิการบดีและคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า โลกธุรกิจขณะนี้เผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงขณะที่การขับเคลื่อนธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จ หรือกฎตายตัว! ต้องมองหาทางเลือก นวัตกรรม และศาสตร์ใหม่ๆ ในการบ่มเพาะความแข็งแกร่ง เตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์
โดยเทรนด์ขณะนี้ การโค้ชชิ่ง (Coaching) เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงต่อเนื่อง ในมหาวิทยาลัยต่างประเทศจะมีหลักสูตรโค้ชชิ่งมานานแล้ว และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เป็นที่มาของการพัฒนาหลักสูตรใหม่ของมหาวิทยาลัยสยามเพื่อตอบรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะหลักสูตรผู้บริหาร นักธุรกิจ ซึ่งล่าสุดได้มีความร่วมมือกับ ไทยแลนด์ โค้ชชิ่ง อคาเดมี่ (Thailand Coaching Academy) เปิดตัวหลักสูตร MBA-การโค้ชเพื่อพัฒนาธุรกิจ หรือ MBA- Coaching for Business Development ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของไทยในการสร้างผู้นำ “โค้ชชิ่ง” มืออาชีพ ในระดับมหาบัณฑิต มีเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารองค์กร ที่ปรึกษาทางธุรกิจ และ โค้ชมืออาชีพ
โปรแกรมดังกล่าว เน้นการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปอย่างก้าวกระโดดในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องปรับตัวให้เท่าทันและรับความท้าทายที่เกิดขึ้น! โดยเฉพาะผู้บริหารองค์กร ผู้บริหารงานบุคคล ที่ปรึกษาทางธุรกิจ และโค้ชของผู้บริหาร เพื่อพัฒนาศักยภาพตนเอง ธุรกิจ องค์กร และทีมงาน ที่พร้อมขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนำไปสู่เป้าหมาย Achieve Goal เพื่อความสำเร็จของธุรกิจนั้นๆ
เป็นการสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่ผสมผสานศาสตร์โค้ชชิ่ง ทักษะสำคัญที่จำเป็นกับผู้บริหารในยุคปัจจุบัน ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง นำพาองค์กรสู่เป้าหมายอย่างมีคุณค่าในทุกมิติ พร้อมสร้างความสำเร็จได้ทั้งชีวิตส่วนตัว
ทั้งนี้ หลักสูตรพัฒนาโดยกลุ่มบริษัท Jimi The Coaching ที่มีประสบการณ์การโค้ชผู้บริหารในองค์กรชั้นนำมากว่า 10 ปี โค้ชจิมมี่ พจนารถ ซีบังเกิด
ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท Jimi The Coach กล่าวว่า นับเป็นโอกาสสำคัญในการขยายศาสตร์โค้ชสู่ระบบการศึกษาของไทย และคนไทยได้มากขึ้น เป็นการผสานงานวิชาการเข้ากับศาสตร์โค้ชชิ่ง ค้นหาศักยภาพที่ซ้อนเร้น!
“เราต้องการสร้างโค้ชมืออาชีพสู่ผู้นำองค์กรให้มีเป้าหมายแห่งความสำเร็จ ดำรงตนอย่างแข็งแรง เพื่อนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายส่วนตัวและองค์กร รวมทั้งความมีจริยธรรมควบคู่กันไปซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจแห่งอนาคต"
สำหรับหลักสูตรนี้ระยะเวลาเรียนรู้ 2 ปี แต่สามารถจบได้ภายใน 1.5 ปี ส่วนผู้ที่เคยเรียน TCA, ACTP สามารถจบได้ภายใน 1 ปี โปรแกรมนี้จะได้ทั้งปริญญา บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การบริหารธุรกิจ) และประกาศนียบัตรรับรองจากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (International Coaching Federation-ICF) ในระดับ Accredited Coach Training Program (ACTP) โดยรุ่นปฐมฤกษ์ เปิดรับเดือน พ.ค.นี้ จำนวนไม่เกิน 50 คน ค่าใช้จ่ายราว 3.45 แสนบาท
โค้ชจิมมี่ ทิ้งท้ายว่า ผู้นำ และซีอีโอ จำนวนไม่น้อย ยังมีศักยภาพที่ซ่อนเร้นที่ไม่ได้นำมาใช้! ศาสตร์แห่งโค้ชที่จะทำให้เข้าใจตัวเองได้อย่างลึกซึ้งจะนำสู่คุณสมบัติสำคัญของผู้นำยุคใหม่ที่ต้องมีทั้งความโอบอ้อมอารี เมตตา มุ่งมั่น ทำงานเป็นทีม ล้มแล้วลุกขึ้นมาได้เร็ว แน่นอนว่าเมื่อไครซิสมาเยือน ผู้นำจะสามารถจัดระเบียบทุกอย่างได้อย่างมีสติ! พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจก้าวข้ามทุกๆ วิกฤติ