สั่งเข้มงวดสถานศึกษา ย้ำ ”ครูต่างชาติ” ต้องมีใบอนุญาตทำงาน
รมว.แรงงาน สั่งเข้ม กรมการจัดหางาน ตรวจสอบครูชาวต่างชาติไม่มีใบอนุญาตทำงาน พร้อมสร้างการรับรู้ ตั้งเป้าสถานศึกษารัฐ-เอกชน ทราบแนวปฏิบัติ การขอใบอนุญาตทำงาน ให้ครูต่างชาติ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน ตรวจสอบครูต่างชาติในโรงเรียนและสถานศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยให้สำนักงานจัดหางานจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เป็นหน้าด่านประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ขั้นตอนการขออนุญาตทำงานกฎ ระเบียบ และโทษหากไม่ปฏิบัติตาม พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบครูต่างชาติในตำแหน่งครูผู้สอนและการขอรับใบอนุญาตทำงาน (work permit) ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบ
ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน รับข้อสั่งการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สร้างการรับรู้แก่สถานศึกษาภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้อง รวมทั้งตรวจสอบและควบคุมการทำงานของคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ
จากผลการตรวจสอบโรงเรียน และสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ จำนวน 922 แห่ง พบว่ามีครูต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย จำนวน 6,129 คน โดยสัญชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ฟิลิปปินส์ 2,667 คน 2. อังกฤษ 558 คน 3. สหรัฐอเมริกา 465 คน 4. จีน 237 คน 5.แอฟริกาใต้ 160 คน และอื่นๆ 2,042 คน และพบสถานศึกษาและครูต่างชาติกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. ครูต่างชาติกระทำความผิดข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จำนวน 8 คน
2. ครูต่างชาติกระทำความผิดข้อหาไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้าง และลักษณะงานหลักที่ทำภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้าทำงานและต้องแจ้งทุกครั้งที่เปลี่ยนนายจ้าง จำนวน 3 คน
3. โรงเรียนและสถานศึกษากระทำความผิดข้อหารับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จำนวน 1 แห่ง
4. โรงเรียนและสถานศึกษากระทำความผิดข้อหาไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงชื่อและสัญชาติของคนต่างด้าว และลักษณะงานที่ให้ทำภายใน 15 วัน นับแต่วันที่จ้างและไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบ เมื่อคนต่างด้าวนั้นออกจากงานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่คนต่างด้าวออกจากงาน จำนวน 20 แห่ง (ข้อมูลจากกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2563 - 25 มกราคม 2564)
สำหรับคนต่างด้าวที่จะขอรับใบอนุญาตทำงานในตำแหน่งครูผู้สอนในสถานศึกษา ต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง (NON-IMMIGRANT VISA) ไม่ใช่เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางผ่าน (TOURIST/TRANSIT VISA) โดยยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงานพร้อมเอกสารการประกอบวิชาชีพครูและเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ที่เป็นที่ตั้งสถานศึกษา
หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบครูชาวต่างชาติทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ในโรงเรียนหรือสถานศึกษา ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกผลักดันกลับประเทศ
ส่วนโรงเรียนหรือสถานศึกษาจะถูกดำเนินคดีในข้อหารับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และถ้ายังพบกระทำผิดซ้ำจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี
ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่ไลน์ @)Service_Workpermit และสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน ซึ่งมีการจัดล่ามภาษาอังกฤษ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร แนะนำวิธีการทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย