‘การบินไทย’ กางแผนซื้อเครื่องบินล็อตใหม่ 30 ลำ ในปี 2568

แหล่งข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนฟื้นฟูกิจการที่การบินไทยเตรียมเสนอศาลล้มละลายกลาง และขอรับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ มีการระบุถึงแผนจัดหาเครื่องบินล็อตใหม่เพื่อเสริมศักยภาพฝูงบิน รวมจำนวนประมาณ 20 – 30 ลำ โดยจะทำการจัดซื้อในช่วงปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัว หลังโควิด-19 เริ่มคลาย

นอกจากนี้ ผู้จัดทำแผนยังระบุถึงเหตุผลของการจัดหาเครื่องบินใหม่ เนื่องจากปัจจุบันการบินไทยอยู่ระหว่างประกาศปลดระวางอากาศยาน และทำการขายทอดตลาด เพื่อปรับลดฝูงบินให้สอดคล้องกับการใช้งาน และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุง แต่เมื่ออุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวแล้ว การบินไทยมีความจำเป็นที่ต้องทำแผนจัดหาอากาศยานเพิ่มเติม

“แผนฟื้นฟูที่กำหนดจะเตรียมซื้อเครื่องบินนี้เป็นเรื่องที่น่าแปลก เพราะการบินไทยกำลังฟื้นฟูกิจการ ผู้จัดทำแผนกลับมาว่าเมื่อฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จต้องลงทุนกับเครื่องบินในทันที ซื้อมากถึง 30 ลำ วงเงินน่าจะถึง 1 แสนล้านบาท ถึงวันนั้นแล้วการบินไทยจะมีความพร้อมที่จะกลับมาเป็นหนี้ระดับแสนล้านในทันทีหรือไม่ การก่อหนี้ส่วนนี้อาจทำให้การบินไทยต้องแบกรับภาระเหมือนที่เคยเป็นมา”

อีกทั้ง แผนการจัดหาเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบินนี้ ยังมีเหตุผลที่อ้างถึงการซื้อเพื่อทดแทนอากาศยานที่ทำการปลดระวางและอยู่ระหว่างประกาศขาย ดังนั้นควรกลับมาประเมินว่าฝูงบินที่การบินไทยประกาศสขายอยู่ในปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องขายหรือไม่ เพราะเครื่องบินที่มีการปลดระวางขาย เป็นเครื่องบินที่มีศักยภาพทำการบิน และยังไม่มีภาระที่ต้องจ่ายค่าเช่าด้วย อาทิ แอร์บัส A320 และโบอิ้ง 777

สำหรับฝูงบินที่การบินไทยประกาศขายอยู่ในปัจจุบัน มีจำนวน 42 ลำ ประกอบด้วย แอร์บัส A300-600 จำนวน 1 ลำ, แอร์บัส A340-500 จำนวน 3 ลำ, แอร์บัส A340-600 จำนวน 6 ลำ, แอร์บัส A380-800 จำนวน 2 ลำ, โบอิ้ง 737-400 จำนวน 2 ลำ, โบอิ้ง 747-400 จำนวน 10 ลำ, โบอิ้ง 777-200 จำนวน 6 ลำ, โบอิ้ง 777-200ER จำนวน 6 ลำ และโบอิ้ง 777-300 จำนวน 6 ลำ