ฉาวโฉ่ 'เมียหลวงบุกงานแต่ง' เปิดโทษวินัยตำรวจ กระทำผิดฉันชู้สาว
เรื่องนี้ต้องขยาย ฉาวโฉ่ "เมียหลวงบุกงานแต่ง" เปิดโทษวินัยตำรวจ กระทำผิดฉันชู้สาว
กรณีโซเชียลมีเดียแชร์คลิปไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของหญิงสาวรายหนึ่ง "เมียหลวงบุกงานแต่ง" ถือทะเบียนสมรสบุกไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท พร้อมระบุว่าฝ่ายเจ้าบ่าวยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากับตน แต่กลับถูกไล่ออกจากงานจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ นั้น
วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยวิธีการเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยและป้องกันมิให้ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย พ.ศ.2549 ได้กำหนดมาตรฐานการลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และได้กำหนดโทษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ดังนี้
1.ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยา หรือ สามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย โดนกักขัง 30 วัน
2.ได้หญิงหรือชาย เป็นภรรยา หรือ สามี แล้วไม่เลี้ยงดู เกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหายโดนกักขัง 30 วัน
3. จดทะเบียนสมรสซ้อน โดนกักขัง 30 วัน
4. ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป โดนกักขัง 30 วัน
5. ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในใบสำคัญการหย่าเกี่ยวกับการอุปการะบุตร ความผิดครั้งแรก ภาคทัณฑ์ ความผิดครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นการหย่ารายเดียวกันหรือไม่ก็ตาม กักยาม 3 วัน และความผิดครั้งที่สามและครั้งต่อไป กักยาม 3 วัน และพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวน ม.101 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ยังมีการแก้ไขแนวทางการลงโทษทางวินัยร้ายแรง ในข้อ 10 เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ในข้อ 10.1 จากเดิมว่า “เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น” (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี) เป็น “ชู้หรือมีชู้ หรือมีพฤติการณ์เป็นชู้หรือมีชู้กับภรรยาหรือสามีผู้อื่น” (ปลดออกหรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี) ทั้งนี้ บทลงโทษต่างๆ จะต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด และเป็นคนสั่งลงโทษตามกฎระเบียบดังกล่าว