เตือน‘เผาที่โล่ง – ไฟป่า’ ทำ17 จังหวัดภาคเหนือค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน
กรมอนามัย เผย ‘เผาที่โล่ง – ไฟป่า’ ทำแนวโน้ม 17 จังหวัดภาคเหนือค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินมาตรฐาน คาดแนวโน้ม 26 ก.พ. – 3 มี.ค.นี้ ค่ามาตรฐานถึงระดับสีส้มหรือสีแดง หวั่นส่งผลกระทบต่อเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มี โรคประจำตัว
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือจะเริ่มสูงเกินค่ามาตรฐานช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม โดยเมื่อวันที่ 22 - 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในระดับสีแดง 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก และเชียงใหม่
คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคมนี้ ในพื้นที่ภาคเหนือมีแนวโน้มปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพิ่มสูงขึ้น จนเกินค่ามาตรฐานถึงระดับสีส้มหรือสีแดงได้ เนื่องจากการเผาในที่โล่ง ไฟป่าในประเทศและหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ได้
จากฐานข้อมูลโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ คลังข้อมูลสุขภาพ (Health Data Center) กระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 22 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีจำนวนผู้ป่วยสะสมด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษอากาศ จำนวน 189,265 ราย ส่วนใหญ่ป่วยด้วยกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ ตามลำดับ โดยกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มเด็ก 0 – 4 ปี และจังหวัดที่มีการรายงานผู้ป่วยสูงสุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ รองลงมาคือ เชียงราย
“ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ทางเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ และแอปพลิเคชัน Air4thai หรือติดตามข่าวสารด้านสุขภาพและมลพิษทางอากาศ ทางเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” หากพบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ในระดับสีส้มหรือสีแดง ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือหากต้องออกนอกบ้านควรสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น และควรสังเกตอาการตัวเองและคนในครอบครัว หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก คลื่นไส้ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือคลินิกมลพิษในพื้นที่ และขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันลดการเผาในที่โล่งทุกชนิด เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละออง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว