รัฐมนตรีดิจิทัลฯ ที่ประเทศไทยต้องการ
หลังจากรัฐมนตรี 3 คน พ้นตำแหน่ง ทำให้ต้องปรับ ครม.อีกครั้งหนึ่งในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งในครั้งนี้อย่างน้อยมีรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 2 ตำแหน่งที่ต้องปรับใหม่ หนึ่งในนั้นคือ รัฐมนตรีดิจิทัลฯ ซึ่งเป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัจจุบันที่ต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
การพ้นจากตำแหน่งของรัฐมนตรี 3 คน ประกอบด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง หลังจากปรับ ครม.ครั้งล่าสุดเมื่อ ส.ค.2563 ได้เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และการปรับ ครม.ครั้งนี้มีรัฐมนตรีเศรษฐกิจอย่างน้อย 2 ตำแหน่งต้องปรับใหม่
หนึ่งในนั้นคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งความคิดหวังของการเปลี่ยนชื่อจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อขับเคลื่อนดิจิทัลให้รองรับการพัฒนาประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพจำของกระทรวงดิจิทัลฯ กลายเป็นการทำงานด้านความมั่นคงทางด้านไซเบอร์ หรือไซเบอร์ซิเคียวริตี โดยเฉพาะบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่ความผิดตามกฎหมายขยายตัวตามการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ภารกิจของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่จำกัดเฉพาะการกำกับดูแลความมั่นคงทางไซเบอร์ แต่อีกบทบาทที่สำคัญ คือการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่จำช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศให้บรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศพัฒนาภายในปี 2580 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่รัฐบาลสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเป็นเป้าหมายสำคัญในการยกระดับประเทศให้พ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
แน่นอนว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมนับจากนี้จะต้องใช้โครงข่ายดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมืองภายใต้ความคิดรวบยอดเมืองอัจฉริยะ ซึ่งนำไปสู่ความปลอดภัยของผู้ใช้ชีวิตในเมือง การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานหมุนเวียน การเดินทางที่มีความสะดวกและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย โดยการผลักดันแนวคิดดังกล่าวล้วนต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและภาคเอกชนลงทุนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ดำเนินชีวิตและใช้ในทางธุรกิจ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงสำคัญไม่น้อยกว่ากระทรวงเกรดเออย่างกระทรวงคมนาคม เพราะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัจจุบันต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวนำ ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมคนใหม่ต้องสร้างความหวังให้ประชาชนและภาคเอกชนในการเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งไม่แค่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลพร้อม แต่ต้องสร้างสังคมดิจิทัลขึ้นมาให้สมกับที่รัฐบาล คสช.เปลี่ยนชื่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม