7 วันได้ตัว 'มือเผา' พระบรมฉายาลักษณ์-ทำลายทรัพย์สิน 'เรือนจำคลองเปรม' โยงการเมือง

7 วันได้ตัว 'มือเผา' พระบรมฉายาลักษณ์-ทำลายทรัพย์สิน 'เรือนจำคลองเปรม' โยงการเมือง

'รมว.ยธ.'กำชับกรมราชทัณฑ์ รักษาความปลอดภัย อย่าปล่อยให้มีการทำลายทรัพย์สินเรือนจำอีก หลังพบผู้ต้องสงสัย 3 ราย เผาป้าย-ทำลายทรัพย์สิน เตรียมออกหมายจับ


 1 มี.ค.2564 ที่ห้องประชุม เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปร่วมประชุม โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรี นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ รอง.ผบก.น.2  โดยในที่ประชุมมีการหารือ กรณีการวางเพลิงป้ายและทำลายทรัพย์สิน บริเวณหน้าเรือนจำคลองกลางเปรม

โดยนายอายุตม์ ได้รายงานว่า ทางกรมราชทัณฑ์ไปแจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำผิดแล้ว ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ผู้ตรวจกรมราชทัณฑ์เป็นประธาน และเพิ่มกำลังจากหน่วยงานพิเศษร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาการณ์บริเวณภายนอกเรือนจำ

ขณะที่การติดตามคนร้าย นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 03.10 น. โดยกล้องวงจรปิดของเรือนจำกลางคลองเปรม สามารถจับภาพคนร้ายได้ ตรวจพบอุปกรณ์ในการเตรียมเพื่อตั้งใจมาเผา พบถังน้ำมันและไฟแช็คทิ้งเอาไว้ 

จากนั้นกรมราชทัณฑ์จึงได้ประสานไปยัง สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ได้ติดตามจากกล้องวงจรปิด พบรถ MPV  สีขาว เป็นรถเพียงคันเดียวในเวลาดังกล่าว พบผู้ต้องสงสัย 3 คนเป็น ชาย 2  หญิง 1 โดยการตามจากกล้องวงจรปิดไปจนถึงที่พักและพบว่ามีความเชื่อมโยงทางการเมือง เวลานี้อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานให้ชัดเจนรวมถึงเช็คดาต้าเบสท์มือถือเพื่อค้นเบอร์โทรว่าผู้ลงมือนั้นติดต่อกับใครได้บ้าง โดยในกรณีนี้ทางตำรวจได้ยืนยันจะทำคดีให้จบโดยเร็วที่สุดและคาดว่าจะไม่เกิน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม นายสมศักดิ์ ได้กำชับการทำงานของกรมราชทัณฑ์ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและการรักษาทรัพย์สิน เพราะเป็นเรื่องที่มิสมควรเกิดขึ้น และอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแม้แต่เรือนจำเดียว

ส่วนว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เปิดเผยว่า ทางกรมราชทัณฑ์ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ประชาชื่น โดยได้แจ้ง 3 ข้อหากับผู้กระทำความผิด คือ 1.วางเพลิงเผาทรัพย์ 2.บุกรุกสถานที่ราชการ และ 3. มาตรา 112 เพราะเป็นการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ โดยเบื้องต้นทราบว่ามีผู้กระทำผิด 3 ราย ตำรวจกำลังขออนุมัติหมายศาลเพื่อออกหมายจับ และจะสืบสวนขยายผลเพื่อสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะทราบว่ามีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ด้วย 


วันเดียวกัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)  ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า  เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ. เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ประชาชื่น ความผิดที่เกี่ยวข้องในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และคาดว่าจะมีความผิดม.112 ขณะนี้รู้ตัวกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี ขอเวลาทำงานอีกไม่นานจะจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้แน่นอนเ