ต่างชาติรุมประณาม ‘กองทัพเมียนมา’ ปราบม็อบนองเลือด
ทั่วโลกประณามกองทัพเมียนมา ปราบปรามการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงจนนองเลือดในหลายเมือง หลังมีรายงานเสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย บาดเจ็บหลายสิบ และถูกจับกุมกว่าพันคน
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ร่วมประณามกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง พร้อมทวีตว่า สหรัฐยืนหยัดเคียงข้างกับความกล้าหาญของประชาชนชาวเมียนมา และขอให้ทุกประเทศเปล่งเป็นเสียงเดียวสนับสนุนเจตนารมณ์ของพวกเขา
มีรายงานว่า สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และผู้บาดเจ็บ 30 คนจากการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านกองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร ในหลายเมืองของเมียนมาเมื่อวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) ที่เป็นการนองเลือดมากที่สุดนับตั้งแต่การรัฐประหาร และเชื่อว่ามีผู้ชุมนุมถูกจับกุมอีกราว 1,000 คน
โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อียูจะดำเนินมาตรการตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา และย้ำให้กองทัพหยุดใช้กำลังกับพลเรือนทันที และอนุญาตให้ประชาชนใช้สิทธิในการแสดงความเห็นและชุมนุมได้อย่างเสรี โดยเร็วๆนี้ อียูมีมติเห็นพ้องให้คว่ำบาตรกองทัพเมียนมาสืบเนื่องจากการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.และให้ระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนา แต่ยังยังอยู่ในขั้นสรุปรายละเอียดและจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อประกาศอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศตุรกี ประณามการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของกองทัพเมียนมา และแสดงความกังวลว่าเสถียรภาพในเมียนมากำลังถดถอยหลังการรัฐประหาร และสำนักงานกิจการต่างประเทศอังกฤษ เรียกร้องให้เมียนมายุติความรุนแรงและฟื้นฟูประชาธิปไตย
โฆษกสำนักงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยแถลงการณ์ของอันโตนิอู กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ที่ระบุว่า การใช้กำลังกับผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติและการจับกุมตามอำเภอใจเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้กองทัพเมียนมาเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนเมียนมาที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว และยุติการปราบปรามประชาชน
รัฐบาลญี่ปุ่น ออกมาประณามการใช้กองกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารในเมียนมาจนมีผู้เสียชีวิต
นายคัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในฐานะโฆษกรัฐบาลให้สัมภาษณ์ในช่วงแถลงข่าวว่า "การใช้กำลังตอบโต้ผู้ชุมนุมประท้วงด้วยความสงบเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และเราขอเรียกร้องอย่างถึงที่สุดเพื่อให้กองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงกับพลเรือนโดยทันที"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กองทัพเมียนมาได้เข้ายึดอำนาจและประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยได้เข้าควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา รวมถึงนายอู วินมิ่นท์ ประธานาธิบดีเมียนมา และผู้นำคนอื่นๆ ของพรรค NLD โดยกองทัพเมียนมาอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา