พบ ‘หมูเป็นโรคระบาด' PRRS ในเมือง 'โคราช' ตายเกือบทั้งหมู่บ้าน
"โคราช" พบ "หมูเป็นโรคระบาด" "PRRS" ตายเกือบทั้งหมู่บ้าน ปศุสัตว์สั่งห้ามเคลื่อนย้ายหมูเข้าออกหมู่บ้าน 1 เดือน หวั่นระบาดไปเป็นวงกว้าง
ปศุสัตว์โคราช ออกประกาศตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ฯ พบมีหมูตายด้วยโรคพีอาร์อาร์เอส (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome) มากกว่า 30 ตัว ช่วงเดือน ก.พ.64 ทั้งนี้ PRRS ถือว่าเป็นโรคที่มีอาการกับระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจของหมู ซึ่งจะทำให้แม่หมูแท้งในระยะตั้งท้อง ส่วนลูกหมูที่ติดเชื้อ จะมีอาการแคระแกร็น โตช้า และป่วยเรื้อรังจนตายลงในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชายเขต มีประเทศ ปศุสัตว์อำเภอเมืองนครราชสีมา ได้มีการออกหนังสือประกาศให้เขตพื้นที่ หมู่บ้านหัวถนน หมู่ที่ 7 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นเขตโรคระบาดชั่วคราว ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ภายหลังจากที่ตรวจพบมีหมูตายด้วยโรคพีอาร์อาร์เอส (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome) เป็นจำนวนมากกว่า 30 ตัว ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยทางปศุสัตว์อำเภอ ได้ออกประกาศห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสุกร หมูป่า หรือซากสัตว์ทุกชนิด เข้า ออก หรือผ่านเขตพื้นที่หมู่บ้านหัวถนน หมู่ที่ 7 ต.หัวทะเล เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดออกไปยังพื้นที่ข้างเคียง หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 65 แห่ง พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558
ล่าสุด วันที่ 5 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่หมู่บ้านหัวถนน หมู่ที่ 7 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับนายศรีทอน โคทวี อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหัวถนน ซึ่งได้พาไปดูเล้าหมู่ที่ชาวบ้านเลี้ยงอยู่ ภายในหมู่บ้าน ที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่กี่ตัว
โดยนายศรีทอนฯ เล่าว่า ในหมู่บ้านหัวถนนจะมีเกษตรกรเลี้ยงหมูอยู่หลายครอบครัว ส่วนใหญ่จะเลี้ยงแบบทำเป็นเล้าทั่วไป ไม่ได้ทำเป็นฟาร์ม บางรายเลี้ยงไว้ 10-20 ตัว เพื่อส่งขายให้กับพ่อค้าคนกลางที่จะมารับซื้อถึงที่
ก่อนหน้านั้นช่วงเดือนมกราคม 2564 ได้มีชาวบ้านแจ้งว่า หมูที่เลี้ยงในเล้าตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงแรกๆ ก็คิดว่าคงจะไม่เกี่ยวกับโรคระบาด แต่ต่อมาได้มีหมูตายเพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีมากกว่า 60 ตัว จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีหมูที่ชาวเลี้ยงไว้ตายเพิ่มอีกเกือบทั้งหมู่บ้าน ทำให้ตนเองต้องแจ้งไปที่ปศุสัตว์อำเภอเพื่อมาตรวจ และพบว่าหมูเป็นโรคระบาด จึงได้มีการประกาศห้ามเคลื่อนย้ายหมู และซากหมู เข้า ออก และผ่านเขตหมู่บ้านเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังเขตพื้นที่อื่น ตอนนี้ในหมู่บ้านเหลือหมูที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 10 กว่าตัวเท่านั้น โดยตนเองได้ให้เกษตรกรที่เลี้ยงหมูแจ้งทันทีหากมีหมูตายเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหมูตายเพิ่ม ทั้งนี้ในหมู่บ้านไม่เคยเป็นโรคระบาดนี้มาก่อนเลย จึงทำให้เกษตรกรรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ยังไม่กล้าขายหมูที่เหลือออกไป เพราะต้องรอให้ผ่านช่วงประกาศไปก่อน นายศรีทอนฯ กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ โรคพีอาร์อาร์เอส (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome) ถือว่าเป็นโรคที่มีอาการกับระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจของหมู ซึ่งจะทำให้แม่หมูแท้งในระยะตั้งท้อง ส่วนลูกหมูที่ติดเชื้อ จะมีอาการแคระแกร็น โตช้า และป่วยเรื้อรังจนตายลงในที่สุด พบมีการระบาดครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2530 ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ซึ่งในประเทศไทยตรวจพบการแพร่ระบาดเมื่อปี 2532 โดยหมูที่ตายด้วยโรคนี้ ส่วนใหญ่จะมีอายุไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันน้อย ปัจจุบันถึงแม้ว่าจะมีวัคซีนป้องกันหลายชนิด แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เนื่องจากจะทำให้เกิดความเสียหายกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้ ถึงอย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่มีการระบาดมาสู่มนุษย์แต่อย่างใด