ขรก. 'เมียนมา' ร่วมประท้วงรัฐประหาร ไม่สนรัฐบาลขู่ไล่ออก
"ข้าราชการเมียนมา" ร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ประท้วงต้านกองทัพรัฐประหาร โดยไม่สนคำขู่รัฐบาลไล่ออก หากคว่ำบาตรงาน
กลุ่มผู้ประท้วงต้านรัฐประหารเมียนมา กลับมาเคลื่อนไหวบนถนนในนครย่างกุ้ง และหลายเมืองอีกครั้งในวันเสาร์ หลังจากวานนี้ (5 มี.ค.) ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยเรื่องเมียนมาเรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เปิดรับฟังคำวิงวอนอย่างสิ้นหวังของชาวเมียนมา ที่ต้องการกลับคืนสู่ประชาธิปไตยและฟื้นฟูประเทศโดยเร็วที่สุด
ผลกระทบจากการชุมนุมเกิดขึ้นกับทุกระดับของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลที่ปิดตัวลง หน่วยงานราชการกระทรวงที่ว่างเปล่าปราศจากเจ้าหน้าที่ และธนาคารไม่สามารถเปิดให้บริการได้
ในวันนี้สื่อของรัฐประกาศว่า หากข้าราชการยังคงคว่ำบาตรงาน ไม่ทำหน้าที่ตนเอง “พวกเขาจะถูกไล่ออก” โดยมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมนี้
กองกำลังทหารยังคงใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และสังหารผู้ประท้วงไปแล้วอย่างน้อย 50 รายตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงนัดรวมตัวเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจันหน้าผู้ประท้วงหนุ่มสาวนับร้อยถือโล่ที่ทำขึ้นเอง รวมตัวชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในเมืองลอยแก้ว ทางตอนเหนือของเมียนมา
“การปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยของเราต้องชนะแน่นอน” หนึ่งในผู้ชุมนุมในเมืองลอยแก้วระบุ ซึ่งวันนี้กลุ่มผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นครูในชุดเครื่องแบบสีเขียวและสีขาวได้นัดกันออกมาเคลื่อนไหวในวันเสาร์
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงในนครย่างกุ้ง ศูนย์กลางการค้าของเมียนมาร์ก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะการชุมนุมในเขตซานจอง (Sanchaung)ซึ่งเป็นโซนในเมืองที่เคยคึกคักด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหารและผับบาร์ แต่ตอนนี่ได้กลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการเคลื่อนไหวผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารและเรียกร้องประชาธิปไตย