'เชียงใหม่' อากาศแย่ที่สุดในโลก เป็นวันที่ 3 ขณะชาวบ้านลอบเผาป่าไม่หยุด

'เชียงใหม่' อากาศแย่ที่สุดในโลก เป็นวันที่ 3 ขณะชาวบ้านลอบเผาป่าไม่หยุด

เช้านี้ "เชียงใหม่" ติดอันดับที่ 1 อากาศแย่ที่สุดในโลก เป็นวันที่ 3แล้ว ขณะที่ชาวบ้านยังลักลอบเผาป่าไม่หยุด

เช้าวันนี้ เวลา 06.00 น. (9มี.ค.) เว็บไซต์ Air Visual จัดอันดับคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ สภาพอากาศแย่เป็นอันดับที่ 1 ของโลก โดยวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 202US AQI ถือว่า ครองแชมป์อันดับ 1 ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ส่วนบรรยากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันท้องฟ้าสีกลายเป็นสีเทา หากมองจากในตัวเมืองขึ้นไปยังดอยสุเทพ ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้เพราะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่า

ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เครื่องบินพานิชย์ยังสามารถบินขึ้น-ลงได้ตามปกติ โดยทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีการเปิดไฟนำร่อง หรือ Navigator Light เพื่อช่วยนักบินในการนำเครื่องขึ้นและลงจอด

ส่วเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เสือไฟ สถานีควบคุมไฟป่าห้วยฮ่องไคร้-ขุนแม่กวง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ได้กระจายกำลังกันจำนวน 4 ชุดจำนวน 45 นายเข้าดับไฟป่าบริเวณทิศใต้ดอยต้นผึ้ง (พื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้) ท้องที่บ้านวังธาร ม.8 ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยเริ่มดับเวลา 23.00 น. 15 ไร่ ดับเสร็จ 03.00 น.( 9มี.ค.)มีพื้นที่ป่าเต็งรัง เสียหายจำนวน 35 ไร่สาเหตุ ชาวบ้านเข้าไปจุดไฟเผาป่าล่าสัตว์

อย่างไรก็ตาม วันนี้ศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไข ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตรวจพบ จุด Hotspot จากดาวเทียม พบว่าเกิดจุดความร้อนทั้งหมด 211 จุด ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 139 จุด เขต ป่า สปก. 3 จุด เขตพื้นที่ป่าสงวน 67 จุด และพื้นที่ชุมชนและอื่นๆอีก 2 จุด ซึ่งก็ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบตามพื้นที่ต่างๆเข้าไปดับเพลิงตามพิกัดจุดความร้อนทั้งหมดแล้ว

ส่วนคุณภาพ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่สถานี กรมควบคุมมลพิษ ได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก ต.ศรีภภูมิ อ.เเมืองเชียงใหม่ วัดค่า Pm 2.5 ได้ 106-113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนสถานีตรวจวัด ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ และ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ วัดค่า Pm2.5 ได้ 88-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ขณะที่ ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาต้องสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากเริ่มแสบจมูกแสบคอแสบตา ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เตือนประชาชน หากออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นและควรงด กิจกรรมกลางแจ้งในช่วงนี้