ทียู ลุยตั้งโรงงาน "โปรตีนทางเลือก” ซุ่มวิจัยทูน่าในน้ำมันกัญชา
ทียูทุ่ม 6.5 พันล้านลงทุนธุรกิจอาหาร นำร่องโรงงานโปรตีนทางเลือก หลังพบตลาดโลกโต กว่า 6.8% เฉลี่ยต่อปี มูลค่าสูงถึง 1.28 หมื่นล้านดอลาร์ พร้อมซุ่มวิจัยทูน่าในน้ำมันกัญชา รอกฎหมายผ่าน ตลาดพร้อม วางจำน่ายทันที
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู เปิดเผยว่า ในปี 2563 มียอดขาย 1.32 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% มีกำไรสุทธิ 6.24 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.7 % ส่วนใหญ่ยังมาจากทูน่ากระป๋องมียอดขาย1.44 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% ในขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 8% อยู่ที่ 5.28 พันล้านบาท
“ ปีที่ผ่านมา แม้จะเกิดโควิด-19ระบาด แต่ความต้องการสินค้าบริโภคสูงขึ้น เนื่องจากคนหันมาทำอาหารรับประทานเองที่บ้านบวกกับผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพและอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น”
สำหรับปี 64 ไทยยูเนี่ยน มองว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยและโลกจะยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว อย่างน้อยจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปี จากผลกระทบของโควิด แม้จะมีวัคซีนแล้ว แต่การกระจายวัคซีนยังมีข้อจำกัด ดังนั้นแนวโน้มความต้องการอาหารกระป๋อง และสัตว์เลี้ยง จะยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทจึงคาดว่า ผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างน้อย 5 % ซึ่งอยู่ในกรอบของแผน 5 ปี (2563-67)
ด้านการลงทุน ปี 64 กำหนดไว้ 6.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากแผนปกติที่กำหนดไว้ 4-4.5 พันล้านบาท เนื่องจากต้องลงทุนก่อสร้างโรงงาน3 แห่ง แยกเป็นในไทย2 แห่งคือ คือโรงงานผลิตโปรตีนทางเลือก 800 ล้านบาท โรงอาหารสำเร็จรูป 1,000 ล้านบาท และ ก่อสร้างห้องเย็นในประเทศ กานา ประมาณ 300 ล้านบาท
“ ไทยยูเนี่ยนจะเน้นลงทุนธุรกิจที่ทำกำไรได้ ตอบรับความต้องการในอนาคต อาจจะเข้าซื้อธุรกิจที่น่าสนใจในตลาด ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทที่อ่อนแอมากขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากโควิด “
จากปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้ลงทุนในสตาร์ทอัพ 6 บริษัท คืิอ บริษัทมันนา ฟู้ดส์ บริษัทโปรตีนทางเลือก บริษัทอัลเคมี ฟู้ดเทค ธุรกิจนวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วย บริษัท ไฮโดรนีโอ บริษัทเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บริษัท วิสไวร์ส นิวโปรตีนและบริษัทเงินทุนสัญชาติสิงคโปร์ ที่ทำธุรกิจบริหารกองทุนที่มองหาโอกาสความร่วมมือและร่วมลงทุนในเทคโนโลยีอาหาร
“แม้ว่าตลาดโปรตีนทางเลือกในอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ในตลาดโลกมีแนวโน้มการเติบโตสูงมาก โดย ระหว่าง ปี 2562-2568 เติบโต 6.8% เฉลี่ยต่อปี โดยปัจจุบันมีมูลค่าทางตลาด 12,800 ล้านดอลลาร์ ”
นายธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนให้ความสนใจ จะนำกัญชา และกัญชงมาใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาไว้แล้ว หากกฎหมายมีความชัดเจนก็จะสามารถผลิตได้ทันที เช่น ทูน่าน้ำมันกัญชา การตัดสินใจสร้างผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวจะข้ออยู่กับกฎหมายและความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก