ครม. เคาะปรับกฎ กพ. ใหม่ ข้าราชการมีเรื่องชู้สาว สั่งพัก-เด้งออกทันที
รัฐบาลเห็นชอบปรับข้อเสนอมาตรการทางการบริหารทางวินัย และจริยธรรมเรื่องชู้สาว คุกคามทางเพศ ละเมิดทางเพศของข้าราชการ ตามที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. เสนอไว้
คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 16 มีนาคม 2564
รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่ารัฐบาลเห็นชอบปรับข้อเสนอมาตรการทางการบริหารทางวินัย และจริยธรรมเรื่องชู้สาว คุกคามทางเพศ ละเมิดทางเพศของข้าราชการ ตามที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. เสนอไว้
โดยมีข้อเพิ่มเติมคือ ให้มีการสั่งพักราชการ หรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หากเกิดกรณีเรื่องชู้สาว คุกคามทางเพศ และล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้น รวมถึงหากผู้บังคับบัญชาการละเลย หรือมีการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นล่าช้าก็สั่งให้มีความผิดทางวินัยเช่นกัน รวมถึงล่วงการละเมิดในสื่อออนไลน์ หากมีหลักฐานชั้นต้นเพียงพอให้ออกจากราชการไว้ก่อนเช่นกัน
นอกจากนี้ให้มีการจัดประชุมระหว่างองค์กรบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่างๆ เพื่อศึกษาวิเคราะห์กฎหมายบริหารบุคคล หาเกณฑ์กลางเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องชู้สาว คุกคามทางเพศ และละเมิดทางเพศ
ทั้งนี้กฎก.พ.เดิมว่าด้วยการกระทำการอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ.2553 ระบุพฤติกรรมที่ต้องลักษณะของการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ มี 5 ประการ ดังนี้
1. กระทำการด้วยการสัมผัสทางกายที่มีลักษณะส่อไปในทางเพศ เช่น การจูบ การโอบกอด การจับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง เป็นต้น
2. กระทำการด้วยวาจาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น วิพากษ์วิจารณ์ร่างกาย พูดหยอกล้อพูดหยาบคาย เป็นต้น
3. กระทำการด้วยอากัปกิริยาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น การใช้สายตาลวนลาม การทาสัญญาณหรือสัญลักษณ์ใดๆ เป็นต้น
4. การแสดงหรือสื่อสารด้วยวิธีการใดๆ ที่ส่อไปในทางเพศ เช่น แสดงรูปลามกอนาจาร ส่งจดหมาย ข้อความ หรือการสื่อสารรูปแบบอื่น เป็นต้น
5. การแสดงพฤติกรรมอื่นใดที่ส่อไปในทางเพศซึ่งผู้ถูกกระทำไม่พึงประสงค์หรือเดือดร้อนรำคาญ
ที่มา: มติ ครม. 16 มีนาคม 2564