' ก้าวไกล'โวยเกมยื้อลากยาวแก้รธน. ยันคำวินิจฉัยศาลไม่ล้มล้างกระบวนการ

การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนญในวาระ 3 สมาชิกยังคงถกเถียงกันในประเด็นการลงมติหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาทิ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีความพยายามจากสมาชิกบางคนที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นโมฆะเนื่องจากยังไม่มีการทำประชามติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังไม่เป็นโมฆะ

ยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาไม่ได้เป็นการล้มล้างสิ่งที่เราทำมาหรือทำให้กระบวนการสิ้นผล แต่สิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นการดำเนินการในสิ่งที่รัฐธรรมนูญระบุ

ดังนั้นการที่มีความพยายามที่จะบอกว่ากระบวนการเป็นโมฆะหรือร่างรัฐธรรมนูญตกไปแล้วขอถามว่าใครกันแน่ที่บิดหลักการตรงนี้ ส่วนที่มีการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกครั้งตนมีความกังวลว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ล่าช้าจะส่งผลให้ญัตติแก้ไขไปตกอยู่ที่สมัยประชุมหน้าซึ่งจะไม่สามารถเสนอญัตติในลักษณะเดียวกันได้ทำให้จะต้องมีการเสนอญัตติในสมัยประชุมต่อไปคือเดือนพ.ย.ขอถามว่าผู้ที่เสนอญัตตินี้มีเจตนาอะไรและใครกันแน่ที่ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคการเมืองให้ออกมายืนเคียงข้างประชาชนดังที่ได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง

การอ้างถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นส่วนตัวมองว่าเป็นการยอมรับให้อำนาจตุลาการที่เหนือฝ่ายนิติบัญญัติทั้งที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องของรัฐสภา อีกทั้งมองว่าการทำหน้าที่ขององค์กรตุลาการกลับมีการดำเนินการคุมขังผู้ที่เห็นต่างครั้งที่พวกเขาออกมาเรียกร้องในเรื่องเหล่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายโรมอภิปรายถึงช่วงนี้สสพรรคก้าวไกลได้ชูภาพแกนนำคณะราษฎรที่กำลังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำขณะนี้

ทำให้มีสมาชิกโดยเฉพาะนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะส.ว. ได้ลุกขึ้นประท้วงการชูป้ายดังกล่าวเนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ผิดข้อบังคับการประชุม

โดยหลังจากที่นายพรเพชร วิชิตชลชัยประธานวุฒิสภาในฐานะรองประธานรัฐสภาซึ่งทำหน้าที่การประชุมอยู่ในขณะนั้นตัดบทโดยไม่อนุญาตให้ส.ส. พรรคก้าวไกลชู้ป้ายดังกล่าว

นายรังสิมันต์จึงได้ขอเสนอญัตติต่อที่ประชุมเพื่อให้ที่ประชุมมีการลงมติตามระเบียบวาระต่อไป

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า กรณีที่นายรังสิมันต์ มีการพาดพิงถึงการเสนอญัตติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเป็นการยื้อเวลานั้นข อยืนยันว่าไม่ใช่การยื้อเวลาแต่เป็นการหาทางออกให้กับรัฐสภาเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าเราจะมอบอำนาจให้ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ตนไม่อยากให้ประชาชนเห็นว่ารัฐสภาเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดและไม่อยากให้เห็นว่า รัฐสภาไม่รับผิดชอบหรือยื้อเวลาจึงขอยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการหาทางออกให้กับทางรัฐสภา