“ประยุทธ์”เคาะแผนงบฯปี 65 บูมเศรษฐกิจภูมิภาค 6 หมื่นล.
รัฐบาลจัดงบบูรณาการภาค 6 ภาค ปี 65 มูลค่า6.3 หมื่นล้านบาท รวม 505 โครงการ จากคำขอทั้งหมด 8.8 หมื่นล้าน ภาคอีสานได้มากสุด 2.2 หมื่นล้าน 154 โครงการ นายกฯย้ำให้เป็นโครงการที่ต้องมีความพร้อมในการลงทุน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมร่วมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบกรอบงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาตามแผนพัฒนาภาคทั้ง 6 ภาคประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 505 โครงการ วงเงินรวม 63,595.75 ล้านบาท ปรับลดลงจากข้อเสนอของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เสนอของบประมาณปี 2565 มาทั้ง 88,610.85 ล้านบาท จำนวน 1,670 โครงการ
สำหรับรายละเอียดของวงเงิน จำนวนโครงการและโครงการที่สำคัญในแต่ละภาคประกอบไปด้วย 1.ภาคเหนือได้รับการจัดสรรงบประมาณ 1.36 หมื่นล้านบาท จำนวน 62 โครงการ เช่น โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจและบริการ วงเงิน 3.9 พันล้านบาท
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับการจัดสรรวงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท จำนวน 154 โครงการ เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต วงเงิน 9.3 พันล้านบาท
3.ภาคกลางได้รับการจัดสรรงบประมาณ 90 โครงการ วงเงินรวม 9.6 พันล้านบาท เช่น โครงการพัฒนากรุงเทพให้เป็นมหานครทันสมัย วงเงิน 638.8 ล้านบาท โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ วงเงิน 2.95 พันล้านบาท และโครงการเปิดประตูการค้า - ลงทุนการท่องเที่ยวเชื่อมโยง SEZ-ทวาย-EEC วงเงิน 187 ล้านบาท เป็นต้น
4.ภาคตะวันออก ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2565 วงเงิน 4.86 พันล้านบาท จำนวน 61 โครงการ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่อีอีซีให้ทันสมัยที่สุดในอาเซียน วงเงิน 420 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่ในภาคให้เป็นแหล่งผลิตอาหารคุณภาพสูงให้ได้มาตรฐานสากล วงเงิน 521 ล้านบาท โครงการพันาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนให้เป็นประตูเศรษฐกิจ วงเงิน 522 ล้านบาท และการปรับปรุงมาตรฐานสินค้าและธุรกิจด้านการท่องเที่ยว วงเงินที่ได้รับจัดสรร 913 ล้านบาท เป็นต้น
5.ภาคใต้ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 1.02 หมื่นล้านบาท รวม 87 โครงการ เช่น โครงการพัฒนาท่องเที่ยวภาคใต้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลก วงเงิน 3.6 พันล้านบาท โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา - ปาล์มน้ำมันแห่งใหม่ วงเงิน 113 ล้านบาท โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน วงเงิน 418.9 ล้านบาท และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยว และพัฒนาเขตอุตสาหกรรม วงเงิน 1.41 พันล้านบาท เป็นต้น และ 6.ภาคใต้ชายแดนได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2565 จำนวน 2.8 พันล้านบาท จำนวน 51 โครงการ เช่นโครงการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมและแปรรูปยางพาราวงเงิน 1.12 พันล้านบาท โครงการพัฒนาเมืองสุไหงโก-ลก และเมืองเบตงให้เป็นเมืองการค้าชายแดน 802.2 ล้านบาท เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการอนุมัติงบประมาณตามภาคต่างๆทั้ง 6 ภาคในปี 2565 ได้เน้นในเรื่องของหลักการ 4 ข้อ ได้แก่ 1.ความสอดคล้องกับเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาภาค และเชื่อมโยงกับประเด็นการพัฒนา พื้นที่เป้าหมาย และห่วงโซ่การพัฒนาตามแผนการ พัฒนาภาค 2.เป็นโครงการที่มีความเหมาะสม ดำเนินการได้ทันทีมีความพร้อมในเรื่องของที่ดิน สถานที่ การออกแบบซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
3.เป็นโครงการที่มีความชัดเจนของแผนงานการปฏิบัติ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ โครงการที่เป็นโครงการลงทุนต่างๆต้องแสดงถึงความพร้อมที่จะรับผิดชอบและความพร้อมของผู้ดำเนินโครงการ และ 4.มีผลประโยชน์ต่อประชาชนในวงกว้าง เกิดผลกระทบในระดับภาค ไม่มีลักษณะเป็นโครงการย่อยที่ซอยโครงการออกเป็นโครงการเล็กๆเพื่อประโยชน์ในการขอรับงบประมาณ
“นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ส่วนราชการในจังหวัดต่างๆจัดลำดับความสำคัญโครงการจากโครงการที่ ครม.สัญจรได้มีการอนุมัติไปแล้ว รวมทั้งข้อสั่งการที่นายกรัฐมนตรีได้มีการตรวจราชการในพื้นที่ด้วย” แหล่งข่าวกล่าว