เปิด 5 ข้อเสนอ ปปช. ค้าน ทอท.ดันเทอร์มินอลทิศเหนือ
ครม.รับทราบ 5 ข้อเสนอ ป.ป.ช.ให้ ทอท.เร่งสร้างอาคารผู้โดยสาร “สุวรรณภูมิ” ตามแผนเดิมรับผู้โดยสาร 120 ล้านคน รับคำแนะนำ สศช.ให้ขยายทุกอาคารที่ให้เต็มศักยภาพ ก่อนสร้างอาคารทิศเหนือ อีกทั้งมีหลุมจอดน้อยรับคนได้ไม่มาก
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (23 มี.ค.) รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.รายงานว่า การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาสุวรรภูมิรองรับผู้โดยสารสูงสุด 150 ล้านคนต่อปี โดยปรับแผนแม่บทการพัฒนาสุวรรณภูมิจากเดิมเป็นงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตกและโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ และย้ายการสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารจากด้านทิศตะวันออก ซึ่งเดิมอยู่ระยะที่ 2 ไปอยู่ในการพัฒนาระยะเพิ่มเติม (Extra Phase)
ทั้งนี้ ทอท.ชี้แจงว่าการเปลี่ยนแผนแม่บทได้ปรับตามสถานการณ์จะทำให้สุวรรณภูมิรับผู้โดยสารเพิ่ม 30 ล้านคนต่อปี จากเดิมคาดว่ารับได้ 120 ล้านคนต่อปี เป็น 150 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทิศเหนือ มีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นคัดค้านการก่อสร้าง เพราะทำให้เกิดปัญหามากกว่าการแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาจราจรทางอากาศ ปัญหาความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการ
ส่วนที่ปรึกษาโครงการมีหนังสือไม่เห็นด้วยต่อการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ โดยให้เหตุผลว่าอาคารดังกล่าวไม่มีการเพิ่มพื้นที่เขตการบิน การเชื่อระบบขนส่งผู้โดยสารมีความซับซ้อน และทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่ผู้ที่ใช้บริการที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางบ่อย และหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคไม่ได้วางแผนรองรับการสร้างอาคารผู้โดยสารทิศเหนือไว้
รวมทั้ง ป.ป.ช.ระบุถึงข้อสังเกตของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ระบุว่าคาดการณ์ผู้โดยสารที่ไม่สอดคล้องกับแผนพัฒนาของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและไม่เชื่อมโยงการพัฒนาคมนาคมของประเทศ และแนะนำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพัฒนาอาคารผู้โดยสารให้รองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรก ก่อนจะนำโครงการด้านทิศเหนือมาพิจารณาอีกครั้ง
ปปช.ชง5ประเด็นค้าน
ทั้งนี้ ป.ป.ช.รวบรวมประเด็นและข้อสังเกตเพื่อเสนอมาตรการและข้อเสนอแนะโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิ ทิศเหนือ 5 ประเด็น ได้แก่
1.การปรับเปลี่ยนแผนการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกเป็นการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ โดย ป.ป.ช.ระบุว่าอาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกมีส่วนสำคัญกับการพัฒนาสุวรรณภูมิระยะที่ 2 จึงไม่ควรชะลอโครงการสร้างอาคารด้านทิศตะวันออก เพราะจะกระทบการให้บริการของสนามบินในปี 2565
นอกจากนี้การสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือยังไม่เริ่มออกแบบและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่อาคารภาคตะวันออกทำ EIA และออกแบบแล้วจึงพร้อมกว่า
2.ประเด็นความไม่สมดุลระหว่างปริมาณผู้โดยสาร ของส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารของส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือกับจำนวนหลุมจอดอากาศยาน เพราะอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันมีหลุมจอด 51 หลุมจอด รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี และอาคารเทียบเครื่องบินรองมี 28 หลุมจอด รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 15 ล้านคนต่อปี ซึ่งอาคารผู้โดยสารทิศเหนือมีหลุมจอดเพียง 14 หลุมจอด จึงไม่น่าจะเพิ่มผู้โดยสารได้สูงสุด 30 ล้านคนต่อปีจึงไม่สมเหตุสมผล ไม่สมดุลกับจำนวนอากาศยาน
3.ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากมีการก่อสร้างและเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสารทิศเหนือ ซึ่งหากไม่มีการก่อสร้างรันเวย์เพิ่มเติมให้สอดคล้องกับการสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ทางทิศเหนือจะทำให้เกิดการจราจรทางอากาศและพื้นที่เขตการบินเกิดความแออัดและทำให้เครื่องบินต้องเสียเวลาในการบินขึ้น-ลง ทำให้เพิ่มภาระให้กับสนามบิน
นอกจากนี้ผู้โดยสารต้องเดินทางไปมาระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันกับอาคารผู้โดยสารทิศเหนือ และอาคารเทียบเครื่องบินรอง ซึ่งต้องนั่งรถไฟ 3-4 ต่อ ทำให้สับสนและเพิ่มภาระให้ผู้โดยสาร และส่งผลทำให้ปริมาณการสัญจรบนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ–ชลบุรี ติดขัดเพราะอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่ตั้งอยู่รวมกันด้านเดียว
ขยายอาคารเดิมลงทุนน้อยกว่า
4.ความคุ้มค่าในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ เนื่องจากอาคารดังกล่าวต้องใช้งบถึง 42,000 ล้านบาท ขณะที่การก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกใช้งบเพียง 12,000 ล้านบาท แต่รองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปีเท่ากัน
5.การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร โดย ป.ป.ช.มองว่าโอกาสที่สุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารถึง 150 ล้านคนต่อปี เพราะข้อมูลของสนามบินที่มีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดในโลกปี 2018 ของ Airport Council International พบว่ามีสนามบินที่มีผู้โดยสารเกิน 100 ล้านคนต่อปี แค่ 2 แห่ง จึงยากที่สุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารถึง 150 ล้านคนต่อปี
ทั้งนี้ ครม.ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อเสนอแนะและข้อสังเกตดังกล่าว เพื่อให้ ทอท.เร่งสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ตามมติ ครม.วันที่ 24 ส.ค.2553 โดยเร็วให้สอดคล้องกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ที่จะเปิดบริการปี 2565
รวมทั้งดำเนินโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก (West Expansion) คราวเดียวกัน เพื่อให้สุวรรณภูมิรับผู้โดยสารสูงสุด 75 ล้านคนต่อปี ลดความแออัดอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน รวมทั้งให้ ทอท.ขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกและสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับอาคารผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี ก่อนถึงขยายอาคารผู้โดยสารทางทิศเหนือ