เปิดโปงจับกุม 'แก๊งนักตุ๋น' ชี้ ปชช. ตกเป็นเหยื่อพันราย เผยพฤติการณ์กุเรื่องเชิดเงินล้าน

วันนี้ (24 มีนาคม 2564) เวลา 10.10 น. ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. (Police Cyber Taskforce : PCT) จำนวน 3 คดี ดังนี้ 1.จับผู้ต้องหาหลอกซื้อขายปุ๋ย 2.จับแก๊งหลอกขายซิมโทรศัพท์มือถือ และ 3.ขยายผลแผนประทุษกรรมหลอกขายป้ายทะเบียนเลขสวย

คดีที่แรกเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2564 ตำรวจ PCT ได้จับกุมตัว น.ส.ปราณี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง โดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และฟอกเงิน” โดยจับกุมได้ที่บริเวณด้านหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี โดยช่วงเดือน ม.ค.2564 ผู้เสียหายหลายรายได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ศูนย์ PCT ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นผู้ประกอบการมาขายปุ๋ย และเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรมาขอซื้อปุ๋ย ในราคาที่สูง ทำให้ผู้เสียหายคิดว่าจะได้ส่วนต่างจากการซื้อขาย จนหลงเชื่อโอนเงินเพื่อซื้อขายสินค้าเป็นปุ๋ยมูลไก่อัดเม็ด แต่ไม่ได้รับสินค้า ซึ่งน.ส.ปราณี ได้ใช้นามแฝงชื่อ อีฟ และ หน่อย โดยได้ใช้ชื่ออีฟ หลอกว่าตนเองเป็นเจ้าของโรงงานมีความพร้อมจะขายสินค้า และใช้ชื่อหน่อยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรมาขอซื้อปุ๋ย ในราคาที่สูง

สำหรับน.ส.ปราณี ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวหลายพื้นที่ทั่วประเทศ กว่า 25 คดี รวมมูลค่าเสียหายกว่า 20,000,000 บาท ส่วนเงินที่ได้มาผู้ต้องหาได้นำไปเล่นพนันออนไลน์ ทั้งนี้ในปี 2558 เคยก่อเหตุหลอกลวงในลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อได้เงินมาก็โอนเงินที่หลอกลวงมาได้ผ่านบัญชีธนาคาร 3-4 ทอด มีประวัติเข้าเรือนจำในปี 2560 ก่อนออกมากระทำผิดอีก และถูกจับกุมได้ดังกล่าว

คดีที่สอง เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2564 ตำรวจ PCT ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ น.ส.ธนิวรรณ (นามสกุล) และ นายพลณธี (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซ.ฉลองกรุง 53 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2564 ได้มีกลุ่มผู้เสียหายมาแจ้งว่าถูกหลอกให้ซื้อซิมเน็ตรายปีพร้อมโทรฟรี 24 ชั่วโมง ซื้อ 1 แถม 1 ในราคา 999 บาท ซึ่งปกติราคา 3,999 บาท จากเฟซบุ๊ก ชื่อ “Import Group สินค้านำเขาราคาถูกแห่งประเทศไทย” โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงทั่วประเทศ จำนวน 2,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้เคยมีประวัติกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายคดี จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่สาม เมื่อช่วง มี.ค. 2564 มีกลุ่มผู้เสียหายมาร้องทุกข์ ถูกหลอกจากเพจเฟซบุ๊กเงินกู้นอกระบบชื่อว่า “เงินด่วนทันใจ เงินกู้นอกระบบ” หลอกให้เปิดบัญชี แต่กลับนำบัญชีเหยื่อไปใช้รับโอนเงิน ในคดีหลอกขายทะเบียนสวย เปิดเว็บไซต์ พบว่ามีความเชื่อมโยงกันทางการเงิน มีเหตุเกิดหลายท้องที่และชุดสอบสวนเฉพาะทาง ศปอส.ตร. ชุดเทคนิคสืบสวน 2 สืบสวนแจ้งให้ สน.คลองตัน ขอศาลอาญาพระโขนงออกกมายจับ นายสุเมธ กับพวก 2 คน ก่อนเข้าปิดล้อมจับกุม ยึดทรัพย์สิน รถยนต์ 2 คัน และเงินในบัญชี รวมกว่า 10 ล้านบาท เหตุเกิด ช่วงเดือน ตค.63 ถึง ม.ค.64 ทั้งนี้ในคดีประมูลทะเบียนสวย มีผู้เสียหายร้องทุกข์ จำนวน 30 ราย เสียหายรวม 1,150,000 บาท ส่วนคดีหลอกกู้เงินทางเพจเฟซบุ๊ก มีผู้เสียหายถูกหลอก จำนวน 10 คน เสียหาย รวม 52,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ PCT ได้รับรายงานจากตำรวจพื้นที่ ที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้แล้วบางส่วน ซึ่งจะทำการรวบรวมข้อมูลคดีทั้งหมดพร้อมรายงานการสืบสวนส่งให้แต่ละภาค เพื่อส่งต่อให้พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป สำหรับผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ สามารถแจ้งความได้ที่โรงพักในพื้นที่เกิดเหตุ คือสถานที่ ๆ ทำการโอนเงิน โดย PCT จะทำการประสานกับพื้นที่เพื่อสนับสนุนข้อมูลในทางคดีต่อไป

ทั้ง 3 คดี มีพฤติการณ์คล้าย ๆ กัน คือมีการหลอกลวงขายสินค้าทางโซเชียลมีเดีย หรือ ทางโทรศัพท์ มีผู้เสียหายจำนวนมาก เมื่อหลงเชื่อโอนเงินแล้วก็จะปิดเฟซบุ๊กหลบหนี การจะสั่งซื้อสินค้าจะต้องตรวจสอบให้ดีในการซื้อของที่มีราคาถูกให้ทำการตรวจสอบให้แน่ชัดจากแหล่งต่างๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่จะมาหลอกลวง สำหรับผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อสินค้าออนไลน์ สามารถแจ้งความได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หรือหากสะดวกหรือมั่นใจหน่วยงานหลักก็สามารถแจ้งได้ เพราะปัจจุปันตำรวจมีระบบเชื่อมโยงข้อมูลตรวจสอบข้อมูลได้ทั่วประเทศ

ศูนย์ PCT ตร. ย้ำหากพบพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถโทรแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน ตร. 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง ศูนย์ PCT 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ