เอกชนยักษ์ใหญ่ประกาศนำทัพลงทุนกระตุ้นจ้างงานปลุกซัพพลายเชนเศรษฐกิจ ค้าปลีก ลั่นเดินหน้า “เมกะโปรเจค” รับสัญญาณบวก “วัคซีน-ผ่อนปรนเปิดประเทศ-นักท่องเที่ยวฟื้น” มุ่งขยายโครงการใหม่ต่อเนื่องหนุนศักยภาพไทยระยะยาว
แม้ปี 2564 จะยังมีความท้าทายอยู่มากจากปัจจัยความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าโควิดจะยังคงอยู่ และไม่อาจล่วงรู้ว่าจะเกิดการระบาดรอบใหม่หรือไม่ อย่างไร แต่สัญญาณบวกจาก “วัคซีนป้องกันโควิด” ทยอยฉีดทั่วโลกและประเทศไทย ไปพร้อมกับมาตรการ “เปิดประเทศ” จะถูกผ่อนคลายมากขึ้นเกิดการเดินทางระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเข้าสู่โหมดรีสตาร์ทอย่างจริงจัง ปัจจัยเหล่านี้สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการที่หันมาทบทวนแผนธุรกิจและขยับลงทุน ร่วมกันพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา มองโอกาสธุรกิจและการลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว โดยมุ่งต่อยอดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีการขยายโครงข่ายทั่วประเทศซึ่งเป็นการสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ เกื้อหนุนการขยายการลงทุนของธุรกิจ สินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งเซ็นทรัลพัฒนา จะเข้าไปปักหมุดสร้างแลนด์มาร์คของเมืองนั้นๆ โดยมี “ศูนย์การค้า” เป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงองค์ประกอบต่างๆ เข้ามาภายใต้โมเดล “มิกซ์ยูส” สร้างอีโคซิสเต็มของเมืองครบวงจรในการใช้ชีวิตจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ในปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนาจัดสรรเม็ดเงินลงทุน 17,000-19,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการใหม่และปรับปรุงโครงการเดิม รวม 3-4 โครงการ นับเป็นการลงทุนตามปกติของทุกๆ ปี และสามารถมี “เอ็กซ์ตร้า” ได้เพิ่มขึ้นตามจังหวะและโอกาสที่เข้ามา ขณะที่เมืองเศรษฐกิจใหม่ “อีอีซี” เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของเซ็นทรัลพัฒนาในการปักหมุดลงทุนรองรับยุทธศาสตร์ นิว เอสเคิร์ฟ (NEW S-Curve) ของไทย โดยเตรียมเปิดบริการ เซ็นทรัล ศรีราชา วันที่ 25 ก.ย.นี้ และเซ็นทรัล จันทบุรี กำหนดเปิดบริการไตรมาส 2 ปี 2565 ปีนี้ยังเตรียมเปิดบริการเซ็นทรัล อยุธยา 27 ต.ค.2564 เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยว หรือ เกียวโต โมเดล ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวในอนาคต
“เราคิดบวก ทุกวิกฤติมีโอกาส และมองการลงทุนระยะยาว 10-20 ปี แม้ช่วงสั้นสถานการณ์ต่างๆ อาจมีผลต่อการลงทุนบ้าง แต่ด้วยศักยภาพของไทยที่ยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก มีกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเสริมการจับจ่ายของชาวไทย ไทยยังเป็นฮับสำคัญในหลายด้าน การลงทุนทำให้เกิดการจ้างงาน เกิดรายได้ ซัพพลายเชนหมุน เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย ตลาดจะฟื้นตัวกลับมา เป็นผลดีต่อผลตอบแทนระยะยาว และธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงแน่นอน”
เดินหน้าลงทุน‘เหมาะสม-มั่นคง’
นางอัจฉรา อัมพุช รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเดอะมอลล์เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องทุกโครงการตามแผนเดิม ทั้งเมกะโปรเจค “แบงค็อกมอลล์” บนที่ดินกว่า 100 ไร่ บริเวณแยกบางนา ขณะนี้อยู่ระหว่างลงเสาเข็ม คาดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี การพัฒนาโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ ต่อขยายย่านพื้นที่การค้า “เอ็มดิสทริค” รวมทั้งโครงการมิกซ์ยูสรามคำแหง นอกจากนี้จะมีการปรับปรุงศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายแห่งสู่ภาพลักษณ์ทันสมัย การพัฒนาธุรกิจใหม่ทั้ง “เอ็ม ออนไลน์” สร้างการเข้าถึงลูกค้าทุกช่องทาง การขยายธุรกิจค้าปลีกสแตนอะโลน เช่น กูร์เมต์ มาร์เก็ต ภายใต้โมเดลใหม่ร้านขนาดเล็กและเจาะชุมชนมากขึ้น
"แม้ปี 2564 จะยังมองไม่ค่อยออก ภาพรวมอาจไม่ชัดเจนมากนัก แต่ปัจจัยบวกมีมากขึ้น แนวโน้มการเปิดประเทศทำให้อารมณ์ผู้บริโภคเริ่มกลับมา หากเราช่วยกันประคอง ป้องกัน ผ่านช่วงนี้ไปได้ หลังจากนี้ไทยจะกลับมาบูมอย่างแน่นอน"
สำหรับ สภาพคล่องและสุขภาพธุรกิจของเดอะมอลล์นับว่าอยู่ในสถานะที่ดี ภายใต้นโยบายการลงทุนเน้น “พอเพียง” ในทิศทางที่เหมาะสม สร้างการเติบโต และก้าวแบบมั่นคง
ครึ่งปีหลังตลาดขยับเอื้อเปิดคอนโด
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ มีทิศทางการฟื้นตัวในระดับที่แตกต่างกัน โดยปีนี้ เอพี ยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผนงานเดิมซึ่งจะมีการเปิด 34 โครงการใหม่ มูลค่า 43,000 ล้านบาท
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 26,630 ล้าน เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 7,560 ล้านบาท ทาวน์โฮม 17 โครงการ มูลค่า 14,680 ล้านบาท คอนโด 4 โครงการ มูลค่า 4,340 ล้านบาท เพื่อผลักดันยอดขายและรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งตัวเลขไตรมาสแรกนี้มีแนวโน้มเติบโตที่ดีถือว่าเป็นสัญญานบวกจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้น หลังเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
“หากฉีดได้ครอบคลุม 70% ขึ้นไป รวมถึงเปิดให้ต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาได้ตามมาตรการที่กำหนดน่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลต่อตลาดคอนโดที่ส่วนหนึ่งต้องพึ่งพากำลังซื้อต่างชาติ คาดว่าจะเห็นการเปิดตัวคอนโดใหม่ช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 หลังจากหลายค่ายชะลอเปิดโครงการมาตั้งแต่ปี 2563”
ท่องเที่ยวฟื้นหนุนกำลังซื้อต่างชาติ
ด้านนายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ จะเริ่มกระเตื้องขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อรองรับกับกำลังซื้อและอารมณ์ที่กลับเข้ามาอีกครั้ง
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ผ่านจุดต่ำสุด และเริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จากการมี “วัคซีน” ป้องกันโควิดที่จะช่วยฟื้นการท่องเที่ยวหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยที่ “ต่ำ” จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้ออสังหาฯ มากขึ้น มั่นใจว่า หากผู้ประกอบการมีการเปฺิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่เหมาะสมจะขายได้แน่นอน สะท้อนจากยอดขายไตรมาสแรกนี้ บริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย โดยปีนี้ ศุภาลัย มีแผนเปิด 31 โครงการใหม่ มูลค่า 34,000 ล้านบาท
โทรคมโหมลงทุนลุย5จี
นายธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรูมีแผนลงทุนเน็ตเวิร์ค 5จี ต่อเนื่องภายใต้งบ 40,000-60,000 ล้านบาท (2563-2565) เบื้องต้นที่จะได้เห็น คือ การนำไปใช้ในสมาร์ทฟาร์มมิ่ง เวอร์ชวลเน็ตเวิร์คสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งทำให้การใช้งานของลูกค้ารวดเร็วมากขึ้น
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า อยู่ระหว่างประเมินว่าปีนี้ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มจำนวนเท่าไร อาจเป็นในมุมของการทำโซลูชั่น 5จี และการสร้างยูสเคสร่วมกับพันธมิตรที่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องลงทุนเองแต่ใช้หลักการการลงทุนร่วมกันในการสร้างแพลตฟอร์มการทำงาน คาดภายในปี 2565 จะมีรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรเข้ามา
“ปีที่ผ่านมาเป็นปีของการคิกออฟ 5จี อย่างเต็มตัว ส่วนปีนี้จะเป็นปีของการนำมาประยุกต์ใช้กับองค์กร บริษัท หรือในแต่ละภาคอุตสาหกรรม จะได้เห็นการสร้างโซลูชั่นที่ใช้งานได้จริง ประกอบกับปีนี้ราคาดีไวซ์ลดลงอยู่ในระดับที่จับต้องได้มากแล้ว เมื่อภาครัฐมีการคลายล็อกหรือมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นก็น่าจะทำให้อุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น”
เคลื่อนสังคมดิจิทัล
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ปี 2564 จัดสรรงบลงทุน 25,000-30,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะเสริมสร้างประสิทธิภาพของการขยายเครือข่าย 5จี รองรับการใช้งานของลูกค้าคนไทย และผลักดันส่งเสริมให้เกิดการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ได้วางงบลงทุน 13,000-15,000 ล้านบาท เพื่อขยายเครือข่ายให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยยังคงการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพทางด้านดิจิทัลและการสร้างสรรค์นวตกรรม