'ประยุทธ์' จัดที่ดินช่วยผู้มีรายได้น้อยอีก 3 แสนไร่
“ประยุทธ์”สั่งจัดสรรที่ดินช่วยผู้มีรายได้น้อยอีก 3 แสนไร่ใน 76 จังหวัดภายในปี 64 ระบุหลายพื้นที่มีปัญหาด้านกฎหมายต้องปลดล็อกในการใช้ที่ดินหวังใช้กลไก คทช.ช่วยแก้ปัญหา เร่งใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมช่วยวางแผนจัดการที่ดินในพื้นที่ประเภทต่างๆป้องกันการรุกล้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)ถึงความก้าวหน้าของคทช.ในการจัดหาที่ดินให้กับประชาชนว่าการจัดหาที่ดินจำเป็นต้องมีข้อกำหนดอยู่บ้าง สิ่งสำคัญที่เป็นนโยบายของรัฐบาลก็คือการจัดหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้ประชาชน ซึ่งมีหลายพื้นที่ที่มีปัญหาทางด้านกฎหมายอยู่ วันนี้เราก็หาวิธีการที่เหมาะสม คือการมีกลไก คทช.ขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างนี้มาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“วันนี้มีการจัดสรรที่ดินได้เป็นจำนวนมากพอสมควร หลายแสนไร่ และยังได้เตรียมพื้นที่ไว้อีกให้ครบทั้ง 76 จังหวัด เรากำลังเดินหน้าเรื่องนี้กันอยู่ ขอให้ติดตามผลความก้าวหน้าว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ผมขอให้เคารพกติกาบ้างว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร ต้องคำนึงถึงคนอื่นๆที่เขาไม่มีที่ดินทำกินเหมือนกันในหลายๆส่วน เช่นข้าราชการหลายคนก็ยังไม่มี ยังผ่อนกันอยู่ แต่สำหรับประชาชนรัฐบาลก็ต้องดูแลอยู่แล้วในฐานะเขามีรายได้น้อย ต้องดูแลในเรื่องความเป็นธรรมให้เขา อะไรที่เป็นปัญหากับส่วนราชการ อะไรที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ผมก็สั่งการให้แก้ไขโดยมีการใช้วันแม็ปด้วยในพื้นที่ที่มีปัญหา แต่สำหรับส่วนราชการด้วยกันคงไม่มีปัญหา น่าจะแก้ปัญหาได้ แต่ของประชาชนก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการ ก็ขอให้ติดตามการแก้ปัญหาของคทช.ด้วย”
นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (เลขาธิการ สผ.) เปิดเผยว่าที่ประชุม คทช.เห็นชอบให้ไปดำเนินการจัดสรรที่ดินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมอีก 3 แสนไร่ภายในปี 2564 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่ดินทำกิน หลังจากที่ในปีที่ผ่านมาสามารถจัดสรรที่ดินให้ผู้มีรายได้น้อยได้ตามเป้าหมายไปแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯได้ เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. เพิ่มเติม เพื่อดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ จำนวน 2 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด (คพร.จังหวัด) คณะอนุกรรมการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ และการของบประมาณงบกลาง จำนวน 8,448,400 บาท เพื่อเร่งรัดการพิสูจน์สิทธิที่ยังค้างอยู่ รวมทั้งเห็นชอบกรอบอัตรากำลังของ สคทช. จำนวน 100 อัตรา และการของบประมาณงบกลาง จำนวน 54,834,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายต่อที่ประชุมฯว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน โดยที่ดินที่ได้จัดสรรให้ประชาชนไปแล้วจะต้องมีการพัฒนา กระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องไปดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การขุดบ่อน้ำบาดาล สร้างถนนหนทาง เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งจะต้องมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด โดยที่ดินที่จัดสรรให้ประชาชนไปนั้น เมื่อระบุว่าให้เป็นพื้นที่ที่ทำการเกษตร ถ้ามีแหล่งน้ำดี ดินดี ก็สามารถทำการเกษตรได้ แต่หากพื้นที่นั้นไม่สามารถทำการเกษตรได้ทั้งหมด เพราะมีปัญหาแหล่งน้ำไม่พอเพียง ก็จะต้องหาแนวทางปลดล็อกที่ดินนั้น เพื่อให้สามารถใช้ทำกิจกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาแนวทางแก้ไขกฎ ระเบียบต่าง ๆ ให้เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับจัดสรรที่ดินสามารถลงทุนประกอบอาชีพอื่นในพื้นที่เหล่านี้ได้ หรือให้ประชาชนสามารถมีหุ้นส่วนในการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยประชาชนอาจรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากพื้นที่นั้น ๆ
นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินซ้ำซ้อน ปัญหารุกล้ำที่ดิน และเรื่องการตรวจสอบข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อใช้ในการบริหารจัดการที่ดินด้วย เนื่องจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม จะพบปัญหาผู้ที่ทำการเกษตร เช่น การทำนาที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยบางส่วนก็ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งทำให้ส่งผลต่อวงเงินการประกันราคาข้าวที่เพิ่มขึ้น
จึงขอให้การตรวจสอบข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม ได้มีการลงในรายละเอียดให้มากขึ้นว่าพื้นที่ใดทำการเกษตรชนิดใด โดยอาจใช้โดรนเข้าร่วมดำเนินการ ซึ่งจะได้สอดรับกับแผนการบริหารจัดการน้ำด้วย โดยขอให้หน่วยที่เกี่ยวข้องได้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ