ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา 'การ์ดวีโว่' ก่อเหตุชิงผู้ต้องหา

ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา 'การ์ดวีโว่' ก่อเหตุชิงผู้ต้องหา

ตำรวจแจ้งอีก 4 ข้อหา ครอบครองยุทธภัณฑ์ , วิทยุสื่อสาร , ทำร้ายร่างกาย , ต่อสู้ขัดขวาง กับกลุ่มการ์ดวีโว่ ที่พยายามขัดขวางชิงตัวผู้ต้องหา จากการชุมนุมหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

31 มี.ค.64 ที่ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน กว่า 30 นาย ได้กระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบ สน.พหลโยธิน เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันกำหนดนัดหมายนำตัวกลุ่มการ์ดวีโว่ ที่ถูกจับกุมบริเวณลานจอดรถ ศูนย์การค้าเมเจอร์รัชโยธิน และที่มีการสกัดกั้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อชิงตัว โดยเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถนำตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัว ไปดำเนินคดีได้ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

 โดยภายหลังการเข้าพบตามหมายเรียกแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำการปล่อยตัวกลับไป และจะนำส่งฟ้องพนักงานอัยการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในภายหลัง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ภายในสถานีตำรวจ พร้อมกับกับวางแนวแผงเหล็กที่หน้าทางเข้าของสถานีอีกด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายเตือน ให้เห็นว่า เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ห้ามนำสิ่งของต่างๆ เข้าพื้นที่ควบคุม เช่น อาวุธ , รถ และเครื่องขยายเสียง รวมถึงป้ายข้อความ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ อันเป็นการยุยง ก่อให้เกิดความไม่สงบ ขณะที่ผู้ถูกออกหมายเรียก และทนายความ ก็จะทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัว

 

ขณะที่ พันตำรวจเอกประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน ระบุว่า วันนี้เป็นการนัดหมายผู้ต้องหา เพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม อย่างน้อยใน 4 ข้อหา คือ มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครอง , ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึดได้จากที่เกิดเหตุ เช่น พลุ , ประทัด , ดอกไม้ไฟ , วิทยุสื่อสาร และของกลางอื่นๆ ไปตรวจพิสูจน์ และรายงานผลกลับมาประกอบการพิจารณาดำเนินคดี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาแต่ละคน มีพฤติการณ์กระทำผิดไม่เหมือนกัน จึงต้องแยกแจ้งข้อกล่าวหาไปตามข้อเท็จจริง ที่ตำรวจพิสูจน์ได้ จากนั้นก็จะอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างรอประกอบสำนวนคดี ก่อนนำตัวส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป

 สำหรับผู้กระทำผิดในคดีนี้ พบว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 6 มีนาคม มีผู้ถูกจับกุม จำนวน 18 คน หลบหนี 30 คน ก่อนที่ผู้ที่หลบหนีจะทยอยเข้ามอบตัว เพื่อต่อสู้คดี ซึ่งต่อมาตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 26 คน เข้ารับทราบข้อหาฐานเป็นอั้งยี่ , ซ่องโจร , ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ