พาณิชย์ เดินหน้า“มินิ เอฟทีเอ” กับไห่หนาน
“จุรินทร์”ประกาศเดินหน้าทำ “มินิ เอฟทีเอ” กับไห่หนาน คาดเซ็นเอ็มโอยูกันได้ปลายเม.ย.นี้ มั่นใจช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้า ลงทุน การทำธุรกิจ ด้านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประเดิมจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์รับการทำมินิเอฟทีเอ ทำยอดซื้อขายแล้วกว่า 83 ล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานจัดกิจกรรม “พาณิชย์บุกตลาดจีน เชื่อมโยงตลาดศักยภาพ (ไทย-ไห่หนาน)” ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเร่งรัดผลักดันการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดจีนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ในฐานะที่จีนเป็นตลาดที่ฟื้นตัวเร็วที่สุดในโลกจากสถานการณ์โควิด-19 และยังเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 ของไทยมาต่อเนื่องถึง 8 ปี โดยนอกจากการทำการค้าปกติ กระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มช่องทางการขยายการค้า การลงทุน โดยได้เดินหน้าทำ “มินิ เอฟทีเอ” เป็นรายมณฑล ซึ่งได้เจรจากับมณฑลไห่หนานไปแล้ว ตั้งเป้าทำสัญญาการค้าให้เร็วที่สุด
“ปัจจุบันจีนประกาศนโยบายสำคัญ ต้องการพัฒนาให้ไห่หนานเป็นพรีพอร์ต หรือต่อไปจะเป็นฮ่องกง 2 เราเห็นว่าเป็นโอกาสดี ที่ไทยจะเข้าไปร่วมมือในการทำการค้า การลงทุน กับไห่หนาน และภาคเอกชนเอง ก็สนับสนุนและให้ความร่วมมือ โดยขณะนี้มินิ เอฟทีเอ อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบรายละเอียดระหว่างไทย-จีน ฝ่ายไทยเสร็จสิ้นแล้ว รอฝ่ายจีน ซึ่งเป็นระบบราชการ ต้องดูให้รอบคอบ และคาดว่าจะมีการลงนามกันได้ในปลายเม.ย.2564 นี้ และจะถือเป็นประวัติศาสตร์การค้า ที่มินิ เอฟทีเอ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก”นายจุรินทร์กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากไห่หนานแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนทำมินิ เอฟทีเอ กับรัฐเตลังกานาของอินเดีย รัฐนี้เป็นรัฐที่มีการพัฒนาไปเป็นเมืองเฟอร์นิเจอร์ มีเฟอร์นิเจอร์ปาร์ค เกิดขึ้นที่ไฮเดอราบัด เป็นโอกาสทองของการส่งออกไม้ยางไทยที่จะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์หรือส่งออกไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป และจะทำกับเมืองคะยองกี ของเกาหลี ซึ่งมีกลุ่มชาวเอเชียอยู่จำนวนมาก หวังว่าจะช่วยเพิ่มตัวเลขการส่งออกอาหาร และเมืองโคฟุ ของญี่ปุ่น ที่เป็นเมืองอัญมณี ซึ่งจะช่วยการส่งอัญมณีเครื่องประดับของไทย โดยเชื่อว่าปีนี้น่าจะจบได้ทั้งหมด
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ตลาดจีนเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญของไทย โดยในปีนี้ กรมฯ มีกิจกรรมบุกเจาะตลาดจีนทั้งออฟไลน์และออนไลน์ประมาณ 22 โครงการ รวมถึงการเร่งรัดจัดทำมินิ เอฟทีเอ กับไห่หนาน โดยเอ็มโอยูอยู่ระหว่างการรอความเห็นชอบของทั้ง 2 ฝ่าย มีสาระสำคัญ จะเน้นความร่วมมือในการสนับสนุนเอสเอ็มอี ด้านการค้า ลงทุน การจัดกิจกรรมทางการค้า และร่วมมือการค้าออนไลน์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการประเดิมความร่วมมือระหว่างไทย-ไห่หนาน กรมฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมการค้าไทย-ไห่หลำ จัดกิจกรรม “พาณิชย์บุกตลาดจีน เชื่อมโยงตลาดศักยภาพ (ไทย-ไห่หนาน)” โดยจัดให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ระหว่างวันที่ 29-31 เม.ย.2564 ฝ่ายไทยมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 53 ราย ฝ่ายจีนและฮ่องกง 29 ราย มีสินค้าที่นำมาเจรจาซื้อขาย ได้แก่ สินค้าเกษตร อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าไลฟ์สไตล์ สุขภาพและความงาม มีผลเจรจาสั่งซื้อภายใน 1 ปีแล้วกว่า 83 ล้านบาท