'สุพัฒนพงษ์' โต้รัฐบาลถังแตก ระบุฐานะการคลังยังดี ยันไร้แผนขึ้น VAT
‘สุพัฒนพงษ์’ ปฏิเสธรัฐบาลถังแตก ยันคลังรายงานความเสี่ยงตามปกติ ไร้แผนขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่สั่งคลังศึกษาโครงสร้างใหม่เล็งดึงประชาชนเข้าฐานระบบภาษีของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการเก็บภาษีเพิ่ม จากภาระการคลังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีการหารือกันในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นตนขอยืนยันว่ารัฐบาลยืนยันไม่ได้ถังแตก และไม่มีสัญญาณใด ๆ ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างนั้น โดยในการประชุมครม.วันก่อน กระทรวงการคลังได้จัดทำรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2563 มารายงานให้ที่ประชุมครม.รับทราบ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่รายงานตามปกติ ซึ่งในรายงานจะบอกถึงความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ว่าเป็นอย่างไรไม่มีสาระสำคัญอะไรที่น่าห่วง แม้ว่าจะเป็นช่วงการเกิดไวรัสโควิดระบาด และในอีก 2 ปีจากนี้ยืนยันว่าจะไม่มีวิกฤตใดเกิดขึ้นแน่นอน
ทั้งนี้ในรายงานมีการประเมินความเสี่ยงเป็นข้อ ๆ โดยในปัจจุบันกระทรวงกาคลังรายงานว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงอยู่ในระดับ 2.47 ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่ได้มีความเสี่ยงจนน่ากังวลอะไร
ส่วนกรณีกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจกลับไปจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 10% ตามกฎหมายนั้น รองนายกฯ ยืนยันว่า จะไม่มีการปรับขึ้นภาษีแวตขึ้นในเร็ว ๆ นี้แน่นอน และยังจัดเก็บในอัตรา 7% ต่อไป จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ ซึ่งเรื่องของภาษีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายในที่ประชุมครม.ให้ไปศึกษาการดึงคนเข้ามาอยู่ในระบบภาษี เพราะห่วงว่าในปัจจุบันมีผู้อยู่ในระบบภาษีจำนวนน้อย
ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมครม.ได้หารือถึงการปรับโครงสร้างภาษีด้วย โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ความเห็นว่า หากจะมีการขึ้นภาษี ขอให้พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา อย่านำไปเป็นประเด็นการเมืองเพราะใครมาก็กลัวประชาชนคัดค้าน และในต่างประเทศเขาเลือกจะขึ้นภาษีในช่วงโควิดเพื่อนำรายได้ไปเพิ่มสวัสดิการให้ประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวสนับสนุนแนวคิดของนายจุติ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยไม่มีการขึ้นภาษีมานานแล้ว ดังนั้นควรไปศึกษาให้รอบคอบก่อน ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สอบถามว่า ต่างประเทศที่พูดถึงเป็นประเทศเพื่อนบ้านเราหรือประเทศไหน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ และให้กระทรวงการคลังไปศึกษารายละเอียด แล้วให้เสนอกลับเข้าสู่ที่ประชุมครม.อีกครั้ง