เช็ค! ตั้งด่าน 293 ชุด ตำรวจสนธิกำลังกว่า 6 พันนาย ช่วง 9-17 เม.ย.นี้

ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 เมษายน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อม พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภาค 3 ในฐานะหัวหน้างานจราจรจัดประชุมบูรณาการกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง, สำนักงานทางหลวงที่ 10 , ทางหลวงชนบทนครราชสีมา,ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสา ธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยกู้ภัยจังหวัดนครราชสีมา เพื่อประสานงานและหารือแนวทางการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุ จราจรในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า แผนการใช้กำลังพลและอุปกรณ์ดำเนินการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 9-17 เม.ย รวม 293 จุด ใช้กำลังตำรวจทั้งสิ้น 6,824 นาย ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์ 292 ชุด ,ด่านชุมชน 2,611 จุด เคลื่อนที่เร็ว 271 ชุดและตรวจจับความเร็ว 92 ชุด รองรับปริมาณยานพาหนะในช่วงเทศกาลฯ คาดการณ์ไว้บนถนนมิตรภาพ เฉลี่ยวันละ 2 แสนคัน ใช้บนมอเตอร์เวย์ 6 หมื่นคัน

มาตรการบังคับใช้กฎหมาย รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น ฝ่ายปกครอง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคีเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ประชาชนตระหนักในแนวทาง “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง เน้นกวดขันวินัยจราจรและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ได้แก่ 1.ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2.ขับรถย้อนศร 3.ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5.ไม่มีใบขับขี่ 6.แซงในที่คับขัน 7.เมาสุรา 8.ไม่สวมหมวกนิรภัย 9.ขับขี่รถจักรยายนต์ไม่ปลอดภัย 10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

รวมทั้งตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ พร้อมขยายผลคดีอุบัติเหตุจราจรที่มีคู่กรณีหรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หากผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องสอบสวนขยายผลดำเนินคดีผู้จำหน่ายสุรา ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วันอันตราย ตั้งจุดตรวจและจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในการกวดขันวินัยจราจร เน้นตรวจวัดแอลกอฮอล์รถกระบะที่นั่งตอนท้ายกระบะซึ่งมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูง รวมทั้งสุ่มตรวจสถานีบริการน้ำมันเชื่อเพลิง ตรวจสอบรถโดยสารประจำทางรวมถึงใช้มาตรการด่านชุมชนโดยประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่หมู่บ้านและตำบล

เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ยังอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ละพื้นที่งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มจำนวนมากหรือกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิด เช่น รวมกลุ่มสาดน้ำ คอนเสิร์ต ปะแป้ง ปาร์ตี้โฟม ฯ จึงได้ปรับแผนการทำงานให้บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จุดเสี่ยงคือการรวมกลุ่มดื่มสุราหน้าบ้านหรือในชุมชนและกวดขันจับกุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้าม สถานที่ห้ามจำหน่าย (เช่น วัด โรงพยาบาล สถานที่ราชการ สถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ)

ส่วนมาตรการอำนวยความสะดวกการจราจรให้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรของแต่ละจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่เพื่อกำกับดูแล และสั่งการแก้ไขกรณีมีปัญหาการจราจรเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ โดยจัดเตรียมช่องทางพิเศษ ทางเลี่ยง ทางลัด จุดพักรถ จัดการจราจรทางเข้าออกสถานีบริการน้ำมันให้เกิดความสะดวก โดยถนนเส้นทางหลักในจุดที่มีการจราจรติดขัด ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะทาง 200 เมตร ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย และนำนวัตกรรมในการแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนมาใช้ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุโดยเฉพาะการทำคนน้อยให้เป็นคนมากคือการให้ตำรวจสายตรวจ มีหน้าที่กวดขันวินัยจราจร

ทั้งนี้ให้ทุกหน่วยถอดบทเรียนการอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ที่ผ่านมา ปรับแผนการอำนวยการจราจรให้เหมาะสม จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ รถยก หรืออุปกรณ์ รวมทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ในการอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการจราจรให้พร้อม จัดเตรียมพนักงานสอบสวนส่วนหน้า โดยเฉพาะสถานีตำรวจที่มีถนนสายหลักที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อย เน้นการใช้กำลังพลในการตั้งจุดตรวจ หรือชุดเคลื่อนที่เร็วเป็นหลัก

สำหรับจุดบริการประชาชนให้พิจารณาจัดกำลังพลไปร่วมเฉพาะจุดบริการประชาชนได้ใช้ประโยชน์จริง และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น จุดบริการแก้ปัญหารถเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น พื้นที่ที่มีเส้นทางจราจรสำคัญ ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาค (เช่น เส้นทางจราจร เชื่อม จ.สระแก้ว–จ.บุรีรัมย์ จ.สระบุรี–จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี-จ.นครราชสีมา จัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างภาค และตำรวจภูธรจังหวัด เพื่อกำหนดแผนและประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงาน จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่สนับสนุนภารกิจ บก.ทล. ในจัดการจราจรตามแผนที่เคยปฏิบัติในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันและทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณไฟจราจร โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมกดไฟสัญญาณด้วยมือ

มาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” ตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เน้นกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา เจ้าของกิจการ พนักงาน ลูกจ้าง สถานประกอบการ และสถานบันเทิง ให้ทราบถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ

โดยเฉพาะในปีนี้ ภ.3 และ บก.ทล. ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ข้อมูล เรื่องการเปิดใช้บริการทางพิเศษมอเตอร์เวย์ ช่วง ลำตะคอง -สีคิ้ว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ช่วงวันที่ 9-19 เม.ย.64 แบ่งเป็นขาออก วันที่ 9-13 เม.ย.64 และ ขาเข้า วันที่ 14-19 เม.ย.64 ระยะทาง 36 กิโลเมตร ให้ประชาชนทราบ และบูรณาการกำลังในการอำนวยความสะดวกหรือการแก้ไขปัญหาการจราจรจากการใช้เส้นทางดังกล่าว กรณีเกิดอุบัติเหตุทางถนนหรือคดีอาญาเกิดขึ้นในเส้นทางดังกล่าว ให้ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องการสอบสวน มาตรการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม ในพื้นที่ ปฏิบัติงานในภารกิจอำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564