'ราชทัณฑ์' เข้มโควิด-19 'งดเยี่ยมญาติ' ทั่วประเทศ 1 เดือน
"ราชทัณฑ์" ประกาศงดเยี่ยมญาติแบบปกติ "ทุกเรือนจํา" ทั่วประเทศ เริ่ม 5 เม.ย. - 5 พ.ค. 64 หลังพบการติดเชื้อโควิด-19 ที่เรือนจําจังหวัดนราธิวาส
วันที่ 4 เม.ย. 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวขณะลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ว่า หลังจากพบเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาสติดโควิด-19 ซึ่งยังอยู่ในช่วงการเดินทางเพื่อทํา กิจกรรมภายนอกร่วมกับผู้อื่น กรมราชทัณฑ์จึงได้รีบดําเนินการอย่างเร่งด่วน ด้วยการนํามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำกลับมาใช้อีกครั้ง แม้จะเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการมาได้ไม่นาน สําหรับครั้งนี้ กําหนดเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2564 โดยมีการดำเนินการ หลักๆ คือ
1. งดเยี่ยมญาติแบบปกติที่เรือนจํา
2. งดนําผู้ต้องขังออกทํางานนอกเรือนจํา
3. งตย้ายผู้ต้องขังระหว่างเรือนจํา
4. พิจารณาแนวทางอื่นแทนการนําผู้ต้องขังออกศาล
5. งดนําบุคคลภายนอกเข้าเรือนจํา
6. แยกกักโรค ผู้ต้องขังเข้าใหม่โดยห้ามย้ายหรือออกจากห้องเป็นระยะเวลา 14-21 วัน และ
7. ประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายในการเข้าตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนออกจากห้องแยกกักโรค
ส่วนการดําเนินการที่ยังสามารถทำได้ คือ
1. การเยี่ยมญาติทางไกลผ่านจอภาพ (แอพพลิเคชั่นไลน์)
2. การซื้อสินค้าฝากผู้ต้องขังและการฝากเงิน โดยให้เรือนจําและทัณฑสถานทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ยกเว้นมีเหตุจําเป็น ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติเป็นการเฉพาะกรณี ภายใต้วิถี New Normal คือ การเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่พบในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังในเรือนจําจังหวัดนราธิวาสนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นได้มีมาตรการรองรับในเรือนจําจังหวัดนราธิวาส คือ
1. BUBBLE AND SEAL คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า
2. SEPARATE การแยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง
3. MOBILE FIELD HOSPITAL จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่เรือนจําเก่า เพื่อ รองรับผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการให้อยู่ในการควบคุมไม่แพร่เชื้อสู่ภายนอก รวมถึงการเร่ง SWAB เพื่อตรวจหาโควิด-19 เชิงรุกในผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงทุกราย
อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ อยากให้ประชาชน รวมถึงญาติของผู้ต้องขังทุกคนมั่นใจว่า กรมราชทัณฑ์จะสามารถควบคุมและรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ได้ ภายใต้การประสานความ ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอให้เข้าใจถึงความจําเป็นในการประกาศใช้มาตรการอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งรวมถึงการประกาศงดเยี่ยมญาติแบบปกติที่อาจทําให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในครั้งนี้ด้วย