'แม่สมพร' ส่งทนายแจ้งความ 'เสรี - อานนท์' ปมคุ้ย เรื่อง 'ธนาธร'
'สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ' มอบหมายตัวแทน - ทนายแจ้งเอาผิด 'เสรี - อานนท์' ฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง กรณีจัดรายการวิเคราะห์ทำให้ประชาชน เข้าใจผิด
5 เม.ย. 2564 ที่สถานีตำรวจภูธร อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง น.ส.เมตตา เกลี้ยงกลม ผู้ได้รับมอบอำนาจจาก นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เสียหาย พร้อมด้วย นายสุพล นิลวรเชียร ทนายความ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเสรี วงษ์มณฑา นักจัดรายการโทรทัศน์ และนายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ทั้งสองได้ร่วมกันจัดรายการวิเคราะห์ข่าว “เรื่องลับมาก” ตอน “ดร.อานนท์ คาใจหลายปม ก่อนธนาธรลงเล่นการเมือง" ซึ่งถ่ายทอดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์
รวมทั้งช่องทางสื่อสารในรูปแบบอื่น ๆ โดยบุคคลทั้งสองได้หยิบยกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นบุตรของผู้เสียหาย มาบังหน้า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าบุคคลทั้งสอง ทำหน้าที่สื่อมวลชนช่วยสอดส่อง ดูแล คอยเป็นหูเป็นตาแทนประชาชน แต่การกระทำของบุคคลทั้งสอง มีจุดประสงค์เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างเรื่องราวอันเป็นความเท็จเพื่อใส่ความผู้เสียหายและครอบครัว
นางสาวเมตตา กล่าวว่า สาเหตุที่นางสมพร ได้มอบหมายตนให้มาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เนื่องจากมีผู้ที่รู้จักกับผู้เสียหาย ได้รับชมรายการที่เป็นการหมิ่นประมาทดังกล่าวในจังหวัดอ่างทอง และได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้เสียหายว่า เหตุการณ์ที่บุคคลทั้งสองกล่าวหามีข้อเท็จจริงว่าอย่างไร เป็นไปตามที่ทั้งสองคนกล่าวใส่ร้ายหรือไม่ โดยบุคคลผู้นั้นรับรู้เรื่องที่นี่ ดังนั้น จึงจำต้องมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่จัดรายการทั้ง 2 คน ซึ่งทางผู้ที่ได้ชมรายการพร้อมที่จะเดินทางมาเป็นพยานด้วย โดยการแจ้งความฐานหมิ่นประมาทครั้งถือว่าเป็นครั้งแรกที่นางสมพร ตัดสินใจดำเนินคดีตามกฎหมาย แม้ที่ผ่านจะมีการหมิ่นประมาทหลายต่อหลายครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักฐานที่ใช้ในการแจ้งความวันนี้ ทนายความแจ้งว่า มีชุดเอกสารมอบอำนาจจากนางสมพร และหลักฐานคือเทปรายการออกกาศรายการวิเคราะห์ข่าวดังกล่าวมาเป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าตามเนื้อหาใจความในรายการที่ก่อให้เกิดการความเสียหายแก่ชื่อเสียงนั้น มีถ้อยคำใดปรากฎบ้าง นายสุพล ระบุว่า มีบางตอน กล่าวหาตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวหานางสมพรอย่างรุนแรง เช่น เป็นตระกูลทำลายชาติ ชังชาติ ซึ่งนางสมพรได้ตั้งคำถามกลับว่า เพราะตนเป็นแม่ของนายธนาธรใช่หรือไม่ จึงต้องถูกโยงเข้าไปเป็นเรื่องการเมืองและการกระทำของพิธีกรทั้งสองทั้งสองที่พูดกันอย่างสนุกปาก โดยนางสมพรได้รับความเสียหายในด้านชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือ ซึ่งส่งผลต่อการทำธุรกิจระหว่างประเทศที่ทำอยู่ด้วย