เส้นทางรวย 'สร้างรายได้' อย่างไร ในช่วงวิกฤติ 'โควิด-19' ?
3 ทริค "สร้างรายได้" ในช่วงวิกฤติ "โควิด-19" จาก "โค้ชหนุ่ม" จักรพงษ์ เมษพันธุ์ "เดอะมันนี่โค้ช" ที่ช่วยเปิดทางเพิ่มรายได้
"โควิด-19" กลับมาระบาดใหญ่ในประเทศอีกครั้ง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวันหลักรายร้อยราย หลายวงการ ตั้งแต่รัฐมนตรี นักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหาร ดารา ฯลฯ ฉุดตลาดหุ้นไทยดิ่งอีกครั้งสะท้อนความกังวลว่าการระบาดในครั้งนี้จะกลับมารุนแรงไม่แพ้ครั้งแรกที่มีการล็อกดาวน์ไปเมื่อปีที่แล้ว
ผลกระทบที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือเรื่อง "เงิน" ในกระเป๋า ของทุกคน ที่ส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้นตัวจากการระบาดระลอกเดิม และมาตรการการช่วยเหลือต่างๆ ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ก็กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางปี 2564 แล้ว
สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ณ เวลานี้ เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเรื่องที่จะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ และคงจะดีไม่น้อยหากสามารถบริหารจัดการเงินที่มีอยู่ได้แบบได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แน่นอนว่าไม่ใช่แค่การ "ประหยัด" เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมองหาโอกาส "เพิ่มรายได้" หรือ "หาเงิน" เข้ามาเพิ่มด้วย
"ปณิด" ชวน "โค้ชหนุ่ม" จักรพงษ์ เมษพันธุ์ คุยเรื่องการเพิ่มรายได้ในช่วงวิกฤติ ในรายการ ปณิดคิดเงิน EP.18 สรุปได้ 3 เทคนิคที่ช่วยให้คนธรรมดาๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งตกงาน คนที่ทำงานอยู่แล้วอยากสร้างอาชีพเสริม หรือแม้แต่เด็กจบใหม่ที่ยังไม่ได้งาน หรือไม่มั่นใจในเส้นทางการทำงานของตัวเอง สร้างรายได้และปูทางชีวิตตัวเองในช่วงวิกฤติแบบนี้
- 3 ช่องทาง "สร้างรายได้เพิ่ม" ช่วง "โควิด-19"
ผมอยากให้เรารื้อหรือค้นในตัวเอง ผมใช้คำที่ว่า "ค้นต้นทุนชีวิตของคุณดู" หัวใจสำคัญของการค้นต้นทุนชีวิตคืออย่าเป็นคนดูถูกตัวเอง คนดูถูกตัวเองทำอะไรก็ไม่เจริญหรอก แต่เราต้องรู้ว่าตัวเรามีของอยู่ เราอาจจะมีปริญญาบัตร วุฒิบัตร การฝึกอบรม ชีวตเรากว่าจะเรียนจบ 20 ปีเรามีอะไรมาบ้าง เรามีงานอดิเรกอะไรบ้างที่เราถนัด
งานอดิเรกคือของสนุกที่ไม่ได้ตังค์ ได้เวลาเปลี่ยนให้เป็นสนุกและได้ตังแล้ว ถูกไหม แล้วเรามีเครือข่ายอะไรไหม ลองนั่งนึกว่าเพื่อนแต่ละคนเขามีกิจการอะไรไหมแล้วเราจะไปต่อยอดยังไงกับเขาได้ รวมไปถึงไอเดียใหม่ๆ ก็คือมันไม่มีไอเดียอะไรแล้วก็ไปเรียนใหม่เลยก็ได้
"อย่าไปคิดไอ้ 4 ปีที่คุณเรียนมามันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่จะปูทางให้ชีวิตคุณสบาย โลกใบใหม่ ไอ้ 4 ปีที่คุณเรียนมาอาจจะไม่มีความอะไรอีกแล้วก็ได้ มันเป็นแค่ทักษะพื้นที่มันติดอยู่กับตัวคุณเท่านั้น จากนั้นลองเปลี่ยนดูว่าขอที่คุณมีอยู่ในตัวมันสามารถทำเงินได้ 3 ช่องทาง"
1. สร้างสินค้า สร้างเป็นสินค้าขึ้นมาตามทักษะที่มี หรือทักษะใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา เช่น ไปอบรมทำอาหาร ทำอาหารเป็น ทำอาหารขาย ซึ่งอาจจะใช้เงินทุนบ้าง
2. สร้างบริการ อีกช่องทางคือเซอร์วิส (งานบริการ) ในกรณีเดียวกับข้อแรก แต่เราไม่ได้ทำอาหารขายเอง อาจจะเป็นตัวกลางรับประสานงาน จัดอาหาร จักเบรก รับส่วนต่างหรือค่าบริการในการหาลูกค้าก็ได้
3. ขายความรู้ ขายความรู้ที่ตัวเองมี เดอะมันนี่โค้ชเล่าว่า "เดี๋ยวนี้ความรู้ไม่ใช่แค่ปริญญาบัตร ความรู้คืออะไรก็ได้ที่คนเขาเอาไปช่วยแก้ปัญหาของเขา เขามีหมาอยู่ตัวนึงเขาเลี้ยงไม่เป็น ใครทำวิดีโอเลี้ยงหมาได้ ผมก็ดู เราอยากจะฝึกทำอาหารเอง เดี๋ยวนี้เขาก็ดูในยูทูปหมดแล้ว ซึ่งรูปแบบที่ 3 เราจะได้เงินในรูปแบบของค่าโฆษณา แล้วถ้าเราทำแล้วดี ก็จะต่อยอดไปอีก"
เดอะมันนี่โค้ช ยกตัวอย่างเคสที่สามารถขายความรู้ จนกลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ โดยไม่ต้องลงทุนเป็นทุนทรัพย์
"ลูกศิษย์ผมคนหนึ่งเขาเป็นพยาบาลแผนกผดุงครรภ์ มีหนี้เยอะมาก ถามว่าจะทำอาชีพเสริมทำอะไรดี ผมบอกว่าก็เป็นพยาบาลผดุงครรภ์ ก็ทำวิดีโอสั้นๆ มาแนะนำว่าวันนี้ต้องทำยังไง คุณพ่อสามารถช่วยคุณแม่ได้ยังไงบ้าง อาการแพ้ท้องแบบนี้เป็น เรื่องธรรมชาติมากเลย แล้วจะใช้อะไรถ่ายก็กล้องมือถือ ไม่ต้องแต่งหน้าทำผม แค่ชุดพยาบาล บรรยากาศโรงพยาบาลก็พอ
เขาก็ทำไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันคนตาม YouTube ประมาณ 70,000 กว่าคน Facebook อีกก็ 70,000 พอคนดู YouTube ปุ๊บก็บอกว่าทำไมคุณพยาบาลไม่เปิดเป็นคอร์สเลย เอาคนซักประมาณ 30 คนมาเรียนด้วยกันแล้วคุณก็เป็นที่ปรึกษารับเก็บเงินรายเดือน"
จักรพงษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า โลกมันเปลี่ยนมันต่อยอดได้ นี่คือโอกาสของคนที่มีของจริงๆ จะได้โชว์ศักยภาพ หัวใจสำคัญคืออย่าไปคิดว่าเราแพ้คนอื่นทำอาหารก็ทำเป็นแต่สู้คนอื่นเค้าไม่ได้ คนที่ทำอาหารขายได้ไม่จำเป็นต้องอร่อยเท่ากับ มิชลินสตาร์ก็ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ดูถูกตัวเองซะอย่างมันก็มีโอกาสที่จะไปต่อ แล้วก็พอเราฝึกทำอะไรที่ไม่ใช่วิชาชีพของเราโดยตรงแรกๆ มันก็ต้องล้มลุกคุกคลานหน่อยอยู่แล้วเพราะฉะนั้นก็จะบอกทุกคนว่าเวลาเริ่มต้นอะไรแบบนี้สร้างอะไรใหม่ๆ ให้ตัวเองสร้างโอกาสใหม่ๆ อย่าไปมองหาว่าเส้นชัยมันอยู่ตรงไหน
"ผมมักจะพูดเล่นๆ ว่าขอให้มีไฟสองเท้าก็ได้ ตาเรามองไม่เห็นว่าทำไปแล้วจะได้เงินหรือเปล่า พอจะแก้หนี้ได้หรือเปล่าเราไม่รู้หรอก แต่เรารู้แค่ว่าขั้นตอนต่อไปมันต้องมีอะไร จะได้ก้าวออกไปแล้วปลอดภัยตั้งวิดีโอแล้วพูดก็ไม่ได้เสียอะไรมากมั้งอัพโหลดไปชีวิตก็ไม่ได้พังทลายหรอกถ้าไม่มีคนดูถูกไหม อันนี้ก็เรียกว่ามีไฟสองเท้าแล้วก็ค่อยไปต่อ"