ผู้ค้าก๊าซ LPG บุกช่องทางโซเชียลมีเดีย กระตุ้นตลาดเพิ่มยอดขายครัวเรือน

ผู้ค้าก๊าซ LPG บุกช่องทางโซเชียลมีเดีย กระตุ้นตลาดเพิ่มยอดขายครัวเรือน

ผู้ค้าก๊าซ LPG อันดับต้นๆของประเทศ เปิดเกมบุกช่องทางโซเชียลมีเดีย เน้นบริการรวดเร็ว เจาะกลุ่มลูกค้า หวังกระตุ้นยอดขายก๊าซภาครัวเรือนในปีนี้ รับทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวจากปีก่อน

การแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 ส่งผลให้ยอดการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) หรือ ก๊าซหุงต้ม ในภาคครัวเรือน ลดต่ำลง หลังภาคการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลงจากมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ได้ปิดกิจการลงชั่วคราวเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด

ขณะที่ปี 2564 ทิศทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นหลังมีการคิดค้นวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และหลายประเทศเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้กันประชากร ประกอบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนเริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติ ทำให้ภาคธุรกิจคาดว่าว่า เศรษฐกิจปีนี้ จะกลับมาฟื้นตัว

ผู้ค้าก๊าซ LPG รายใหญ่ในประเทศ จึงเตรียมพร้อมกระตุ้นยอดขายก๊าซ รับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยผู้ประกอบการต่างงัดแผนทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้ง เว็บไซต์ เพจ เฟซบุ๊ก และแอพพลิชั่น เพื่อหวังอำนวยความสะดวกในการบริการและเจาะฐานลูกค้าอย่างชัดเจน

อย่างเจ้าตลาดก๊าซ LPG ของ ปตท. ที่มียอดขายเบอร์ 1 ในตลาด LPG ครัวเรือน มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 49% มีจำนวนถังก๊าซขนาด 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 13 ล้านใบ

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ OR ได้เปิด เพจ #จุดพลังความอร่อย by ก๊าซหุงต้ม ปตท. ด้วยคอนเซ็ป “ให้เราได้เป็นเพื่อนคู่ครัวและของคู่ใจใกล้ชิดทุกความอร่อยของคุณในทุกๆ วัน” พร้อมมอบทั้งข้อมูลสินค้า และเรื่องราวความอร่อย ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ เคล็ดลับการปรุงอาหารแบบง่ายๆ เทคนิคการใช้ก๊าซหุงต้มอย่างถูกวิธี ไปจนถึงร้านอาหารเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดที่จะช่วยจุดพลังความอร่อย รวมถึงความรักและความอบอุ่น ผ่านการทำอาหารที่เน้นวัตถุดิบหลัก คือความใส่ใจในทุกขั้นตอนของคุณ เพราะOR อยากให้ลูกค้ามีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้าครัว และที่สำคัญคือความอุ่นใจจากความปลอดภัย ที่ก๊าซหุงต้ม ปตท. อยู่คู่ครัวไทยด้วยความห่วงใยเสมอมา

161794727014

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ OR ระบุว่า ปีนี้ บริษัท มีแผนจะเพิ่มยอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) หรือ ก๊าซหุงต้ม ในกลุ่มครัวเรือน และกลุ่มอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซLPG ที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง และน่าจะส่งผลให้กิจกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมต่างๆ น่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น

161794733910

โดยแผนขยายการเติบโตในกลุ่มครัวเรือนนั้น บริษัทจะเข้าไปส่งเสริมร้านค้าปลีก LPG ที่เป็นเครือข่ายของบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 1,400 ร้านค้า จากทั่วประเทศไทยมีร้านค้าปลีก LPG กว่า 40,000 ร้านค้า โดยบริษัท จะเข้าไปส่งเสริมด้านการตลาดกับร้านค้าปลีก LPG เพื่อเพิ่มยอดขาย PTT LPG ให้มากขึ้น ร่วมถึงจะคัดเลือกร้านค้าปลีกLPG เพื่อจัดทำต้นแบบการพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานการใช้บริการ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี และแอพพลิเคชั่นเข้าไปเสริมคุณภาพการใช้บริการ เช่น การจัดส่งก๊าซ เป็นต้น

“เราไม่แข่งกับใคร แต่จะแข่งกับตัวเอง เพื่อยกมาตรฐานความปลอดภัยและบริการ ซึ่งเป็นจุดแข็งทำให้รักษาแชมป์ได้ต่อเนื่อง”

161794731727

ส่วนผู้ค้าก๊าซ LPG ที่มีมาร์เก็ตแชร์ เป็นเบอร์ 2 รวมอยู่ที่ สัดส่วน 23.8% ของตลาด ภายใต้ 2 แบรนด์การค้า คือ สยามแก๊สฯ และยูนิค แก๊ส ก็หันมาใช้ช่องทางออนไลน์กระตุ้นยอดขายมากขึ้น ผ่าน เพจ Siamgas and Petrochemicals PLC. และยังเพิ่มความพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการ “สยามแก๊ส แอพพลิเคชั่น” โหลดง่ายทั้งระบบ แอนดรอย์ และ iOS ด้วยสโลแกนตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ หัวใจไอที อย่างเราแน่นอน.. เพราะ “สยามแก๊ส ความภูมิใจคู่ครัวไทย จากรุ่นสู่รุ่น”

จินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP ระบุว่า ปีนี้ บริษัทมีแผนจะออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย LPG เพิ่มขึ้น รวมถึงมีแอพพลิเคชั่นให้เข้าถึงผู้ซื้อได้อย่างสะดวก และรวดเร็วขึ้น โดยปีนี้มีแผนขยายการเติบโตธุรกิจLPG ซึ่งจะก่อสร้างโรงบรรจุก๊าซ LPG เพิ่มอีก 50 แห่ง ภายใน 3 ปี เพื่อกระจายโรงบรรจุก๊าซให้ครอบคลุมในหลายอำเภอทั่วประเทศ จากปัจจุบัน มีโรงบรรจุก๊าซของบริษัทเอก 41 แห่ง และของตัวแทนจำหน่าย (Agent) ประมาณ 145 แห่ง รวมถึง บริษัท ยังมีแผนลงทุนผลิตถังก๊าซ LPG ใหม่ทุกเดือนเพิ่มขึ้น เดือนละ 100,000 ใบภายใต้ทั้ง 2 แบรนด์ คือ สยามแก๊สฯ และยูนิค แก๊ส จากปัจจุบันมีถังก๊าซ ของบริษัทอยู่ในระบบประมาณกว่า 20 ล้านใบ ซึ่งโดยทั่วไปถังก๊าซจะมีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี

161794735785

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจ ปริมาณขายก๊าซ LPG ในปีนี้ จะเติบโต 15% อยู่ที่ 3.7- 4 ล้านตัน จากที่ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลง 15% มาอยู่ที่ 3.25 ล้านตัน แต่ปีนี้คาดการณ์ว่าสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และหลายประเทศได้ทยอยฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน รวมทั้งรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้มีความต้องการใช้LPG จะกลับมาเพิ่มขึ้น

161794738449

ขณะที่ผู้ค้าก๊าซน้องใหม่ไฟแรงอย่าง แบรนด์ PT ของบริษัท แอดลาส เอ็นเนอยี จำกัด ในเครือ พีทีจี ที่ตั้งเป้าหมายจะมีมาร์เก็ตแชร์ LPG ภาคครัวเรือน เป็นเบอร์ 3 ภายในปี 2568 ก็เตรียมงัดแผนการตลาดกระตุ้นยอดขายให้เติบโตอย่างเร่งสปีด

สุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดลาส เอ็นเนอยี จำกัด ระบุว่า บริษัท ได้วางกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน โดยปี 2564 ธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน หรือ Atlas จะขยายร้าน Gas Shop อีก 50 สาขา รวมเป็น 150 สาขาในสิ้นปี ขณะที่โรงบรรจุก๊าซ จะขยายเพิ่ม 3 สาขา รวมเป็น4สาขาที่บริษัทเป็นผู้บริหารเอง และอีก 12 สาขาจะเป็นแฟรนไชส์

ภายใต้แผนนี้ ทำให้มั่นใจว่า LPG ภาคครัวเรือน ยังต้องพัฒนาต่อ เนื่องจากบริษัทเพิ่งรุกเข้าสู่ธุรกิจนี้เมื่อปลายปี 2563 จึงมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 0.2% หรือเป็นอันดับที่ 8 ซึ่งปีนี้ ตามแผนคาดว่า มาร์เก็ตแชร์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2-2.4% หรือ เป็นอันดับที่ 4 และภายใน 5 ปี จะขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาดรวม

“แผนปีนี้ น่าจะทำให้ตัวเลขภาคครัวเรือนเติบโตก้าวกระโดด โดยตั้งเป้ายอดขาย 44,000-45,000 ตัน จากปี63 ยอดขายอยู่ที่ 3,600 ตัน จะเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เกิดจากการขยายสถานีบริการแก๊ส LPG ที่เพิ่มขึ้น และการขยายการให้บริการแก๊สครัวเรือนให้ครอบคลุมมากขึ้น”

รวมถึงจะพัฒนาการใช้บริการไปสู่ Application platform ที่ต่อไปไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ ณ จุดใด ก็สามารถสั่งก๊าซผ่านแอพพลิเคชั่นได้ เพื่อลดปัญหาการจดสั่งก๊าซ เพราะจะรวบรวมข้อมูลร้านค้าที่ใกล้จุดส่งและมีความพร้อมที่จะจัดส่งก๊าซในเวลาที่รวดเร็วให้กับลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น

นอกจากนี้ การจัดซื้อก๊าซ LPG ของ PT ทุกถังยังสามารถสะสมคะแนนผ่านแมกซ์การ์ด (Max card) ซึ่งรายเดียวที่สามารถเปิดให้สะสมคะแนนจากการเติมก๊าซได้ นับเป็นจุดแตกต่างที่สำคัญที่ทำให้ธุรกิจ LPG ของบริษัท เติบโตอย่างรวดเร็ว