YLG ชี้โควิดดันยอดบัญชีออมพุ่ง 200%เชื่อราคาทองยังขาขึ้น

YLG ชี้โควิดดันยอดบัญชีออมพุ่ง 200%เชื่อราคาทองยังขาขึ้น

“วายแอลจี” ชี้ ราคาทองปรับตัวลดลง หนุนยอดบัญชีออมทอง ไตรมาส1/64เพิ่มขึ้น 200% จากไตรมาสก่อนหน้า คาดหากโควิดระบาดหนักดันราคาทองขาขึ้น แต่ระยะกลางยังไซด์เวย์

นางสาวฐิภา นววัฒน์ทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่า แม้ปริมาณการซื้อขายทองคำโดยรวมในตลาดโลกไตรมาส 1 ปี 2564 จะลดลง แต่ตลาดทองคำในประเทศกลับคึกคักมากขึ้น โดยได้อานิสงส์เชิงบวกจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง บวกรวมกับค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงแตะ 24,400 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี จึงเริ่มได้เห็นนักลงทุนทองไทยทะยอยกลับมาซื้อทองคำอีกครั้ง

ทั้งนี้การลงทุนในทองคำนั้น ลงทุนได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทาง YLG พบว่า มีนักลงทุนหน้าใหม่ สนใจเข้ามา “เปิดบัญชีออมทองคำ ” เพิ่มขึ้นเป็นจำวนมาก กับ YLG Gold saving โดยในช่วง 3 เดือนแรกปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 851% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 200% จากไตรมาส 4 ปี 2563 โดยเชื่อว่าแนวโน้มการเปิดบัญชีลงทุนทองคำจะเติบโตต่อเนื่อง โดยความนิยมจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังพบว่า “การลงทุนทองคำแท่ง” ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดเช่นเดิมเมื่อเทียบกับการลงทุนทองคำแบบอื่น

161922888665

สำหรับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะขัดขวางเส้นทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกลับมาปิดรับความเสี่ยง เทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น พร้อมกับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ซึ่งไทยหนึ่งในประเทศที่เกิดการระบาดระลอกที่ 3 ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า หนุนราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้น

ขณะเดียวในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงแต่ลดลงน้อยกว่าราคาทองคำในต่างประเทศ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน(21 เม.ย. 2564) ราคาทองคำในประเทศ ปรับตัวลดลงแล้ว 400 บาทต่อบาททองคำ หรือลดลง 1.49% จากราคาเปิดปีที่ 26,850 บาทต่อบาททองคำ สู่ระดับ 26,450 บาทต่อบาททองคำ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาทองคำในตลาดโลกที่นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับตัวลดลงถึง 112 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ลดลง 5.94%

ดังนั้น YLG ประเมินว่าในปี2564 ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นเช่นเดิม ขณะที่ในระยะกลาง ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Down โดยมองแนวรับแรก 24,400-24,800 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านแรก 29,050 บาทต่อบาททองคำ หากราคาไม่สามารถผ่านทะลุไปได้ เกิดการปรับตัวลงเพื่อสะสม ที่แนวรับสอง 22,650 บาทต่อบาททองคำ แต่ถ้าผ่านไปได้จะขึ้นทดสอบแนวต้านสอง 30,750 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดประวัติการณ์เมื่อส.ค.ปีก่อน