สิงคโปร์หวนเปิดตลาดไมซ์ฟื้นอุตฯ'ท่องเที่ยว-เดินทาง'
สิงคโปร์หวนเปิดตลาดไมซ์ฟื้นอุตฯ'ท่องเที่ยว-เดินทาง' ขณะที่การป้องกันเพื่อสร้างหลักประกันด้านความปลอดภัยไว้แต่เนิ่นๆของการจัดอีเวนท์ในสิงคโปร์ เป็นโมเดลธุรกิจไมซ์ในอนาคต ที่จะเริ่มหวนกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
สิงคโปร์ เร่งเปิดอุตสาหกรรมการประชุมและนิทรรศการ(ไมซ์)อีกครั้ง ถือเป็นก้าวแรกในการฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและการเดินทางที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อดึงดูดภาคธุรกิจให้เลือกสิงคโปร์เป็นที่ประชุมและทำข้อตกลงทางธุรกิจ ล่าสุด เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ)ได้ตัดสินใจเลือกสิงคโปร์เป็นที่จัดการประชุมประจำปีในวันที่ 25-28 พ.ค.ที่จะถึงนี้แทนที่จะเป็นเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนของหลายประเทศคืบหน้าไปด้วยดี บรรดาบริษัทในสิงคโปร์หวังว่าอีกไม่นานจะได้เห็นนักเดินทางเพื่อทำธุรกิจและนักท่องเที่ยวหวนกลับมาทำธุรกิจและท่องเที่ยวสิงคโปร์ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทจำนวนมากในสิงคโปร์ ยังลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ที่โรงงานของพวกเขาได้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดึงดูดผู้มาเยือนที่ยังคงมีความกลัวเกี่ยวกับอันตรายของไวรัสชนิดนี้
สิงคโปร์ หวังว่าการฟื้นตัวของธุรกิจไมซ์ จะส่งแรงกระเพื่อมช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังบอบช้ำหนักฟื้นตัว โดยมอนโกเมอรี กรุ๊ป กลุ่มบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการจัดอีเวนท์สัญชาติอังกฤษ จัดแสดงงานนิทรรศการที่สอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลสิงคโปร์นั่นคืองาน “จีโอ คอนเน็ก เอเชีย 2021” เมื่อเดือนมี.ค.ที่มารินา เบย์ แซนดส์ โรงแรมและกาสิโนหรูที่บริหารโดยลาส เวกัส แซนดส์ บริษัทสัญชาติสหรัฐ
นอกจากมีผู้เข้าร่วมทางออนไลน์ 700 คนในการจัดงานครั้งนี้แล้ว อีเวนท์ครั้งนี้ยังดึงดูดผู้มาเยือน 500 คนที่ปฏิบัติตามแผนงานอย่างเคร่งครัดและทำตามมาตรการต่างๆในการป้องกันการติดเชื้อทุกขั้นตอน เช่น ผู้จัดงานจะติดตั้งแก๊ดเจ็ทขนาดเล็กกับอุปกรณ์สื่อสารอย่างวิทยุแก่บรรดาผู้ร่วมงานทุกคนเพื่อให้ผู้จัดงานติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ร่วมงานได้ และเมื่อมีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ผู้จัดงานจะส่งข้อความเตือนบรรดาผู้ร่วมงานผ่านแอพฯสมาร์ทโฟนหรือสมาชิกของคณะทำงานเพื่อให้ผู้ร่วมงานรักษาระยะห่าง
ส่วนที่นั่งในห้องประชุม จะจัดให้นั่งห่างกันเพื่อป้องกันการสัมผัสกัน นอกจากนี้ บรรดาผู้เข้าร่วมงานทุกคนที่ต้องการเยี่ยมชมบู้ธแสดงสินค้าและบริการรูปแบบต่างๆภายในงาน สามารถจองผ่านทางแอพฯที่คณะผู้จัดงานจัดให้
"โรเบิร์ต โอเวน" ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายอีเวนท์ของมอนโกเมอรี เอเชีย กล่าวว่า “การป้องกันความปลอดภัยไว้ก่อนของการจัดอีเวนท์ในสิงคโปร์เป็นโมเดลของธุรกิจไมซ์ในอนาคต ที่จะเริ่มหวนกลับมาขยายตัวอีกครั้ง”
ธุรกิจไมซ์มีบทบาทสำคัญต่อสิงคโปร์เนื่องจากบรรดานักเดินทางเพื่อธุรกิจมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยว ประกอบกับความสะดวกสบาย การตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเยี่ยม ทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงแรม และร้านอาหารมากมาย รวมทั้งชีวิตกลางคืนที่มีสีสันทำให้สิงคโปร์น่าดึงดูดใจในฐานะเป็นที่จัดงานอีเวนท์ระหว่างประเทศของภูมิภาคนี้
การเป็นที่จัดอีเวนท์ใหญ่ๆทำให้ประเทศเป็นที่จดจำและได้รับการยอมรับเหมือนแบรนด์สินค้า สิงคโปร์ก็เช่นกัน ที่เป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันกรังปรีซ์ ทำให้ดึงดูดมหาเศรษฐีจำนวนมากเข้ามาลงทุนในประเทศทั้งยังทำให้มีการทำข้อตกลงของบริษัทใหญ่ๆหลายแห่ง
สิงคโปร์อยู่อันดับที่ 7 ของโลกและอันดับ1 ของเอเชีย จากการจัดอันดับเมืองหรือประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดงานไมซ์ในปี 2562 ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 จนลามไปทั่วโลก แต่ในปี 2563 งานอีเวนท์ระหว่างประเทศถูกยกเลิก เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรือเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการจัดงานอีเวนท์ทางออนไลน์ประมาณ 92% ท่ามกลางการห้ามเดินทางและข้อกำหนดต่างๆเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนสิงคโปร์ในปีดังกล่าวร่วงลง85% จากปีก่อนหน้าเหลือ 2.7 ล้านคนถือเป็นจำนวนน้อยที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี