การเมือง
'เจษฎ์' ชี้ข้อเสนอฝ่ายค้าน ตั้ง 'รัฐบาลชั่วคราว' ทำไม่ได้
อดีตที่ปรึกษากรธ. มองข้อเสนอ ฝ่ายค้าน ตั้งรัฐบาลชั่วคราว หลัง "พล.อ.ประยุทธ์" ลาออก ทำไม่ได้ เหตุรัฐธรรมนูญไม่เปิดช่อง เชื่อเกมฝ่ายค้าน ต้องการเป็นรัฐบาลแทน
นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่งและรัฐบาลยุติบทบาทการบริหารประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 และแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ตามกลไกของรัฐธรรมนูญ ยังกำหนดให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่พ้นจากตำแหน่งทำหน้าที่เป็น ครม. รักษาการ และให้รัฐสภาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากบัญชีของพรรคการเมือง. ซึ่งบุคคลที่มีสิทธิถูกเสนอชื่อในรัฐสภา ได้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องพิจารณาด้วยว่า 250 ส.ว. จะสนับสนุนบุคคลใด ส่วนข้อเรียกร้องให้มีรัฐบาลชั่วคราวนั้น ตามรัฐธรรมนูญไม่เปิดช่องให้ อีกทั้งหาก ครม.รักษาการลาออก ยังกำหนดให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่การบริหารราชการแทน
เมื่อถามว่าหากให้ปลัดกระทรวงเป็น ครม. แทนจะตอบโจทย์การเมืองของฝ่ายค้านหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวโดยเชื่อว่าไม่ตอบโจทย์ของฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านต้องการทำหน้าที่เอง
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในรูปแบบของรัฐบาลแห่งชาติ อดีตที่ปรึกษากรธ. กล่าวว่า ต้องพิจารณาเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบ เช่น พรรคเพื่อไทยสามารถรวมกับพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ การตั้งรัฐบาลรอบดังกล่าวจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐจะยอมหรือไม่ ทั้งนี้เงื่อนไขของรัฐบาลแห่งชาติที่ตนมอง คือ การได้รัฐบาลผสมขนาดใหญ่ แต่ต้องถามว่าใครจะเอาด้วยหรือไม่ หรือต้องการใช้แนวทางการยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ และให้พรรคฝ่ายค้าน เช่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จะยอมหรือไม่ หากยอมเท่ากับว่าต้องการแสวงหาอำนาจโดยมิชอบ
“ผมมองว่าข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้าน เรื่องการเปลี่ยนรัฐบาล ไม่มีวิธีทางอื่น นอกจากการเดินตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่เป้าหมายที่เขาต้องการ คือต้องการเป็นเอง ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นนั้น ผมเชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศการเมืองเป็นปัญหาเพราะคือการเปลี่ยนม้ากลางศึก” อดีตที่ปรึกษา กรธ. กล่าว.