กต. ย้ำดูแลผู้หนีภัย 'เมียนมา' ตามหลักมนุษยธรรม - ตรวจเข้มโควิด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน หากเกิดกรณีผู้หนีภัยความไม่สงบ "เมียนมา" ข้ามฝั่งมาไทย จะดูแลตามหลักมนุษยธรรม และตรวจเข้มโควิด-19
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีเกิดการปะทะระหว่างทหารเมียนมา และกองกำลังชนกลุ่มน้อยในเขตพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับประเทศไทยว่า ตามที่มีเหตุกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ร่วมกันกับกองกำลังจากกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Arm-KNLA) เข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.แม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ในวานนี้ (27 เม.ย.) และต่อมา ได้มีเครื่องบินจากฝั่งเมียนมาเข้าโจมตีทิ้งระเบิด บริเวณ บ.วาเดอ อ.บือโซะ จ.ผาปูน และฐานที่มั่นดาข่วย ซึ่งอยู่ตรงข้ามอุทยานแห่งชาติสาละวิน
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีชาวไทยในพื้นที่ บ.แม่สามแลบ จำนวนประมาณ 250 คน อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยบริเวณ บ.ห้วยกองก๊าด ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับชาวไทยกลุ่มดังกล่าวแล้ว
หากเกิดกรณีผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา หลบหนีข้ามฝั่งมายังฝั่งไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการตามที่ได้เตรียมความพร้อมไว้ โดยจะดำเนินการนำผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา พักรอในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว (พื้นที่แรกรับ) ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของทางทหาร โดยจะมีการคัดกรองโควิด–19 ตามมาตรฐานทางสาธารณสุข และหากกรณีการสู้รบมีความรุนแรงและยืดเยื้อ ก็ได้มีการเตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมา เข้าไปพักรอในพื้นที่พักรอที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งห่างจากชายแดน ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยจะดูแลตามหลักมนุษยธรรม (อาหาร น้ำ และยารักษาโรค) และมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรการกุศลเอกชนที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนช่วยเหลือต่อไป
แนวทางการรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือ ได้รับแจ้งจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ยังไม่ประกาศเปิดรับบริจาคในขณะนี้ การให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยผู้ที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นอยู่ในความดูแลช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐ และหากมีผู้หนีภัยความไม่สงบจากเมียนมาหลบหนีข้ามฝั่งมายังฝั่งไทย เบื้องต้นความช่วยเหลือจะกำกับดูแลโดยฝ่ายทหาร หากเกินขีดความสามารถ หน่วยงานจะประสานจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อประกาศขอรับบริจาคช่วยเหลือต่อไป