นักวิทย์แฉ! รัฐบาลอินเดีย'ไม่ฟังเสียงเตือน'โควิดสายพันธุ์ใหม่
ห้านักวิทยาศาสตร์เผย คณะที่ปรึกษาเคยเตือนรัฐบาลอินเดียตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ให้ระวังโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ติดต่อง่ายขึ้นระบาดทั่วประเทศ แต่รัฐบาลไม่สนใจ
นักวิทยาศาสตร์ 5 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะที่ปรึกษารัฐบาลอินเดียที่รัฐบาลตั้งขึ้นเอง เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า แม้เคยเตือนให้รัฐบาลระวังการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ไปแล้ว แต่รัฐบาลกลางก็ไม่ออกมาตรการสำคัญมาหยุดยั้งการแพร่ระบาด
ประชาชนหลายล้านคนไม่สวมหน้ากากไปร่วมเทศกาลสำคัญทางศาสนา และการหาเสียงทั้งที่จัดโดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี หัวหน้าพรรคภราติยะชนตะ รวมถึงการหาเสียงของนักการเมืองฝ่ายค้าน
ขณะที่เกษตรกรหลายหมื่นคนยังปักหลักต่อเนื่องอยู่ชานกรุงนิวเดลี ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกษตรของนายโมดี
นักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทางตอนเหนือของอินเดีย กล่าวโดยไม่เปิดเผยนามกับรอยเตอร์ว่า ที่ประชุมพันธุศาสตร์SARS-CoV-2 อินเดีย (INSACOG) ออกคำเตือนเรื่องโควิดสายพันธุ์ใหม่มาตั้งแต่ต้น มี.ค. โดยส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดผู้ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี รอยเตอร์ไม่สามารถระบุได้ว่า รายงานฉบับนั้นถูกส่งไปให้นายกฯ โมดีหรือไม่
รัฐบาลอินเดียตั้งที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ในนาม INSACOG ขึ้นเมื่อปลายเดือน ธ.ค.63 เพื่อตรวจจับพันธุกรรมสายพันธุ์ไวรัสที่อาจเป็นภัยด้านสาธารณสุข INSACOG มีห้องทดลองทั่วประเทศรวมกัน 10 แห่งสำหรับศึกษาสายพันธุ์ไวรัส
นายอเจย์ ปาริดา ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชีวิต สมาชิก INSACOG กล่าวว่า คณะนักวิจัย INSACOG พบสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617) ครั้งแรกเมื่อต้นเดือน ก.พ. จึงส่งข้อมูลไปให้ศูนย์ควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ก่อนวันที่ 10 มี.ค. เตือนว่า หลายพื้นที่ของประเทศอาจมีการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นรายงานถูกส่งต่อไปให้กระทรวงสาธารณสุข
ในเวลานั้น INSACOG เริ่มเตรียมร่างแถลงการณ์ให้สื่อในนามของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ของอินเดียมีการกลายพันธุ์สำคัญสองที่
และพบ 15%-20% ในกลุ่มตัวอย่างที่ได้จากรัฐมหาราษฏระ ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดของอินเดีย