ทั่วไป
อัพเดท! 'โควิดวันนี้' 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม.ยอดพุ่ง จับตาสมุทรปราการ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี
เกาะติดอัพเดทรายงาน "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม.ยอดพุ่งสูง จับตาสมุทรปราการ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี เพิ่มขึ้น
รายงานเกาะติดความคืบหน้า สถานการณ์ โควิดวันนี้ การแถลงศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบอัพเดท 10 จังหวัดอันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงสุด
จํานวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 จํานวน 10 อันดับแรก
1 กรุงเทพมหานคร 869 ราย
2 นนทบุรี 201 ราย
3 สมุทรปราการ 165 ราย
4 ชลบุรี 89 ราย
5 สมุทรสาคร 69 ราย
6 สุราษฎร์ธานี 60 ราย
7 ปทุมธานี 39 ราย
8 เชียงใหม่ 33 ราย
9 พระนครศรีอยุธยา 32 ราย
10 นครปฐม,ระนอง 29 ราย
ทั้งนี้ กทม.อันดับ 1 ยอดเพิ่มขึ้น จับตา สมุทรปราการ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ปทุมธานี และเชียงใหม่ ยอดเพิ่มมากกว่าวานนี้
สำหรับ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้มโควิด จำนวน 6 จังหวัด กทม. ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ
ฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อยู่ในไทย สร้างภูมิคุ้มกันหมู่
รัฐบาลยืนยัน ฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อยู่ในไทย สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ตั้งเป้าฉีด 70% ของประชากร หรือ 50 ล้านคน รวม 100 ล้านโดส ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตามความสมัครใจ อย่างเท่าเทียมกัน
โดยนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายจะฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติที่มีความประสงค์จะฉีด มีข้อบ่งชี้และไม่มีข้อห้าม จะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคนโดยความสมัครใจ และในการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศ (Herd immunity) ต้องฉีดครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากร
ซึ่งประเทศไทยมีประชากรทั้งคนไทยและต่างชาติที่อยู่หรือมีการทำงานอย่างต่อเนื่องในไทย รวมทั้งคณะทูตานุทูต ทั้งหมด 70 ล้านคน (คนไทย 67 ล้านคน และคนต่างชาติ 3 ล้านคน) เมื่อคิดยอดที่ต้องฉีดร้อยละ 70 คือ 50 ล้านโดส โดย 1 คน ฉีด 2 โดส รวมวัคซีน 100 ล้านโดส
ซึ่งประเทศไทยมีประชากรทั้งคนไทยและต่างชาติที่อยู่หรือมีการทำงานอย่างต่อเนื่องในไทย รวมทั้งคณะทูตานุทูต ทั้งหมด 70 ล้านคน (คนไทย 67 ล้านคน และคนต่างชาติ 3 ล้านคน) เมื่อคิดยอดที่ต้องฉีดร้อยละ 70 คือ 50 ล้านโดส โดย 1 คน ฉีด 2 โดส รวมวัคซีน 100 ล้านโดส
เป็นไปตามหลักการ "ทุกคนจะปลอดภัย เราต้องทำให้ทุกคนในแผ่นดินไทยให้ปลอดภัย-Nobody is safe until everyone is safe." ที่ สธ. ย้ำเสมอ
สธ.ปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยใหม่
กรณีอาการดีขึ้น แพทย์เห็นว่าไม่มีอาการ ระหว่าง 24-48 ชั่วโมง ให้อยู่ รพ. 10 วัน และกลับไปกักตัวที่บ้านต่ออีก 4 วัน จนครบ 14 วัน นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อโควิด -19
เมื่อผู้ป่วยอาการดีขึ้น อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน โดยยึดหลักการปฏิบัติตามหลักการป้องกันการติดเชื้อตามมาตรฐานวิถีใหม่
1. ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ - พักในโรงพยาบาลหรือ SQ อย่างน้อย 14 วัน (ในจังหวัดที่มีปัญหาการบริหารเตียง อาจให้อยู่ รพ. 10 วัน และกลับไปกักตัวต่อที่บ้านอีก 4 วัน จนครบ 14 วัน นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ)
2. ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย - พักในโรงพบาบาลอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันที่มีอาการ เมื่อครบหากยังมีอาการให้อยู่ในโรงพยาบาลต่อ หรือใน SQ จนไม่มีอาการแล้วอย่างน้อย 24 - 48 ชั่วโมง จนอาการดีขึ้น (ในจังหวัดที่มีปัญหาการบริหารเตียง อาจให้อยู่โรงพยาบาล 10 วัน หากอาการดีขึ้นเป็นปกติให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้านจนครบ 14 วัน นับจากวันที่มีอาการ)
โดยแนวทางดังกล่าว เป็นการบริหารตามสถานการณ์ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่คงที่เท่าไหร่ และเป็นการเปิดช่องให้แพทย์หรือหน่วยงานผู้ดูแล สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ครองเตียงตรงนั้นได้