รวบ 50 แรงงานพม่าเถื่อน ลักลอบเข้าไทย
ฉก. จงอางศึกรวบ 50 แรงงานพม่าเถื่อนเครือข่าย "มิมิแง" ลักลอบเข้าไทย
เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ( ตม. ) ตำรวจ สภ.อ่าวน้อย อ.เมือง เจ้าหน้าที่ ตชด.146 ด่านสิงขร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ชรบ. เจ้าหน้าที่ อส.สนธิกำลังติดตามจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองบริเวณ ช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องวังเป้า หมู่ 12 บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย ที่เกิดเหตุใกล้แนวสันเขา พบแรงงานชาวพม่าจำนวนมาก พร้อมสัมภาระเดินลัดเลาะแนวป่าเพื่อไปยังจุดนัดหมายที่เป็นถนนลูกรัง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อม จากนั้นได้ควบคุมตัวแรงงานชาวพม่า แยกเป็นชาย 31 คน หญิง 19 คน พร้อมตรวจคัดกรองไม่พบผู้มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด 19 จึงควบคุมไปกักตัวไว้ 14 วัน ที่สนามหน้ากองร้อย ตชด.ที่ 146 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอนสวน สภ.อ่าวน้อยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวนทราบว่าทั้งเดินทางมาจากเมืองย่างกุ้งและเมาะลำไย ประเทศพม่า โดยมีนายหน้าที่ติดต่อให้ไปทำงานในโรงงานปลากระป๋องแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร บางส่วนไปทำงานในโรงงานที่ อ.หัวหิน กทม. จ.สุราษฏร์ธานี และ จ.กระบี่ ทั้งหมดจึงเดินทางมาพักที่บ้านพักใกล้หอนาฬิกา บ้านมูด่อง ห่างจากชายแดนด่านสิงขร 3 กิโลเมตร ( กม.) ต่อมาได้เดินทางข้ามสันเขาใช้เวลา 2 วัน 2 คืนถึงช่องทางธรรมชาติวังเป้าเพื่อเข้าประเทศไทย โดยนายทุนฝั่งพม่าได้โทรศัพท์นัดหมายให้ผู้ร่วมขบวนการชาวไทยนำรถยนต์ไปรับเพื่อส่งที่โรงงานเป้าหมาย
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงชายแดนไทย - พม่า ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการจับกุมแรงงานพม่าหลบหนีเข้าเมืองหลายครั้ง มีการผลักดันกลับประเทศพม่าผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่การจับกุมแรงงานเถื่อน 50 คน ยังไม่มีข้อมูลการซัดทอดถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อกวาดล้างขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ แต่ทางการข่าวชายแดนทราบว่าแรงงานทั้งหมดป็นของนายทุนเป็นชาวพม่าที่มีฉายาในวงการค้าแรงงานเถื่อนว่า "มิมิแง " พักอาศัยที่ จ.สมุทรสาคร โดยมีแก๊งคนมีสีหลายหน่วยงานให้ความคุ้มครอง