ราช กรุ๊ป ลุ้นผลประมูล 6 โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน

ราช กรุ๊ป ลุ้นผลประมูล 6 โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน

ราช กรุ๊ป ร่วมชิงประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน 6 โครงการ กำลังผลิตรวม 18 เมกะวัตต์ พุ่งเป้าพื้นที่ภาคใต้ ลั่นปีนี้ลุยเพิ่มกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 700 เมกะวัตต์ตามเป้าหมาย

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(โครงการนำร่อง) 150 เมกะวัตต์แรก ที่อยู่ระหว่างการประมูลในขณะนี้ โดยบริษัท ได้ยื่นคำขอเสนอขายไฟฟ้า เพื่อร่วมประมูลทั้งหมด 6 โครงการ ทั้งเชื้อเพลิงชีวมวลและชีวภาพ โครงการละ 3 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 18 เมกะวัตต์ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ที่บริษัทมีฐานการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่อยู่แล้วอยู่ และการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังได้อัตราราคารับซื้อไฟฟ้าพรีเมียมเพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งบริษัท อยู่ระหว่างรอลุ้นผลการตัดสินจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2 ปีนี้

162097337360

สำหรับการดำเนินงานของบริษัท ในปีนี้มุ่งเน้นการบริหารจัดการใน 3 ประเด็นหลักควบคู่กัน ทั้งการบริหารความสามารถในการทำกำไรของสินทรัพย์ที่ได้ลงทุนแล้ว เดินหน้าโครงการเป้าหมายที่มีอยู่ในมือเพื่อร่วมทุนให้สำเร็จ และการบริหารวางแผนทางการเงินให้รัดกุมเพื่อควบคุมต้นทุนและรักษาฐานะทางการเงินให้มั่นคงสามารถรองรับแผนการขยายการลงทุนของบริษัทฯได้

บริษัทฯ คาดว่ากำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนปีนี้จะเพิ่มขึ้นถึง 8,874 เมกะวัตต์ โดยกำลังการผลิตเดินเครื่องเชิงพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,215 เมกะวัตต์ ซึ่งปีนี้มีโรงไฟฟ้า 4 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 537.04 เมกะวัตต์เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่าย ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน ในออสเตรเลียกำลังการผลิต 214.2 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 70%) โรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ ในออสเตรเลีย กำลังการผลิต 226.8 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด) โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ในอินโดนีเซีย กำลังการผลิต 296.23 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 49%) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม Ecowin ในเวียดนาม กำลังการผลิต 29.7 เมกะวัตต์ (บริษัทฯ ถือหุ้น 51%) บริษัทฯ คาดหวังว่า ทั้ง 4 โครงการนี้จะช่วยเสริมหนุนรายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในปีนี้ บริษัท ยังให้น้ำหนักการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเป็นสำคัญ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลงทุนในโครงการประเภทเชื้อเพลิงหลักในต่างประเทศ กำลังผลิตรวมไม่น้อยกว่า 500 เมกะวัตต์ และโครงการประเภทพลังงานทดแทนในต่างประเทศ อีกไม่น้อยกว่า 200 เมกะวัตต์ ส่วนการลงทุนในประเทศ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน รวมกำลังการผลิต 18 เมกะวัตต์ 

นอกจากนี้ ยังแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต เพื่อเสริมสร้างฐานธุรกิจของบริษัทฯ ให้มั่นคงยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ได้จัดสรรเงินลงทุนสำหรับโครงการใหม่ไว้ 7,000 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมจำนวน 15,000 ล้านบาท ในไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วจำนวน 3,257 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนซื้อหุ้น 15.53% ของบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และโครงการพลังงานลมเน็กส์ซีฟ เบนเตร ในเวียดนาม เป็นต้น