ปูติน‘ไม่บังคับ’ประชาชนฉีดวัคซีน
ประธานาธิบดีปูตินอ้อนวอนอีกรอบให้ชาวรัสเซียไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แต่ย้ำจะไม่บังคับ
รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกจดทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 “สปุตนิกวี” เมื่อเดือน ส.ค.2563 แต่กรุงมอสโกและเมืองใหญ่อื่นๆ มีปัญหาประชาชนไม่ไว้ใจวัคซีน
สัปดาห์ก่อนนายเซอร์เก โซบิยานิน นายกเทศมนตรีแถลงว่า กรุงมอสโกเป็นเมืองหลวงโลกแห่งแรกที่เปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กรุงมอสโกที่มีคนอาศัยอยู่ราว 12 ล้านคน ฉีดวัคซีนเพียง 1.3 ล้านคนเท่านั้น และเปอร์เซ็นต์คนที่ฉีดวัคซีนในเมืองหลวงของรัสเซียต่ำที่สุดในบรรดาเมืองหลวงยุโรป
ร้อนถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ต้องกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธ (26 พ.ค.) ขอให้ประชาชนเลิกสงสัย เพราะวัคซีนรัสเซียนั้น “เชื่อถือได้และปลอดภัยที่สุดในโลก” พร้อมย้ำ “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพ ขอให้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย”
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวัย 68 ปีผู้นี้กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการบังคับฉีด
“ประชาชนควรเข้าใจถึงความจำเป็นด้วยตนเอง และตระหนักว่าถ้าไม่ฉีดวัคซีนก็อาจเจออันตรายร้ายแรงเผลอๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิต”
นักสังคมวิทยาจากศูนย์เลวาดา สำนักโพลอิสระชั้นนำกล่าวว่า ชาวรัสเซียลังเลกับการฉีดวัคซีนด้วยหลายเหตุผล แต่การไม่ฉีดวัคซีนก็เป็นสัญญาณบ่งบอก “ความแปลกแยก” ระหว่างประชาชนกับทางการ ชาวรัสเซียหลายคนเชื่อว่า การพัฒนาสปุตนิกวีก็เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย
นอกจากสปุตนิกแล้ว รัสเซียยังพัฒนาวัคซีนอีก 2 ตัวคือEpiVacCorona และCoviVac
ในกรุงมอสโก วัคซีนมีพร้อมฉีดให้ฟรีสำหรับคนที่ต้องการ มีการตั้งศูนย์ฉีดในสถานที่สำคัญ เช่น ชอปปิงมอลล์ สวนสาธารณะ
รัสเซียยกเลิกข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมไวรัสไปเกือบหมดและชาวรัสเซียจำนวนมากไม่สวมหน้ากากบนรถสาธารณะและสถานที่สาธารณะอื่นๆ แล้ว
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศหนึ่งที่โควิด-19 ระบาดหนัก เมื่อวันพุธ (26 พ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 5 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 119,000 คน