รวบอส. 1 นาย นำอาวุธปืนไปขาย
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เผยเจ้าหน้าที่รวบตัวอส.1นาย สารภาพนำอาวุธปืน AK102 ของ กองร้อย อส.ที่ 2 อ.เมือง ไปขาย
พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยกรณีอาวุธปืน AK102 ของ กองร้อย อส.ที่ 2 อ.เมือง จ.นราธิวาส จำนวน 28 กระบอกได้สูญหายไป ว่า คดีที่ต้องดำเนินการมี 28 กระบอก ส่วนอำเภออื่นๆเราตอบคำถามไปแล้วว่าอาวุธปืนหายจากอำเภออื่นๆเราดำเนินคดีไปหมดแล้ว เป็นคดีลักษณะ อส.ถูกยิงแล้วคนร้ายขโมยเอาอาวุธปืนไป ซึ่งอาวุธปืน 28 กระบอกเราเอาคืนมาได้แล้ว 6 กระบอก เหลือ 22 กระบอก ซึ่งกำลังดำเนินการ
เมื่อเช้าเราได้มีการประชุมวางแผนการสอบสวน ซึ่งประเด็นการสอบสวนตอนนี้เราทราบแล้วใครต้องมาให้การบ้าง และต้องตอบคำถามว่าอาวุธปืนหายไปไหน ซึ่งตอนนี้คิดว่าอาวุธปืนที่หายไปส่วนใหญ่น่าจะเป็นลักษณะของการเอาไปจำนำ ซึ่งต้องตามสืบต่อไปว่าใครเป็นคนครอบครองคนสุดท้าย ซึ่งในวันจันทร์นี้ทางฝ่ายปกครองจะรวบรวมหลักฐานเอกสารมาให้ เราจึงจะเริ่มดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยนอกรอบกับ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ท่านได้แจ้งว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ท่านได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เข้าควบคุมตัวนายฮาซัน สาแม เจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อ.เมืองนราธิวาส ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส
ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน Ak102 ของกองร้อย อส.ที่ 2 ได้หายไป และเจ้าหน้าที่มาทำการสอบสวนขยายผล จนนายฮาซัน สาแม ให้การรับสารภาพว่า ได้นำอาวุธปืนไปขายจริง แต่ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ไม่ได้ให้ข้อมูลลงในรายละเอียดมากนัก เกรงจะมีผลและแนวทางในการสืบสวนสอบสวนหาต้นตอที่เหลือ
แหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการสิบสวนสอบสวนในเรื่องอาวุธปืนที่หายไปนั้น ได้ตกไปอยู่ในบุคคล 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด และกลุ่มสมาชิกแนวร่วม โดยเฉพาะกลุ่มนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญคนร้ายเสียชีวิต มักตรวจยึดอาวุธปืนของคนร้ายไว้ได้ และมักพบว่าคนร้ายจะใช้อาวุธปืนของทางราชการในการเคลื่อนไหวก่อเหตุเกือบทั้งสิ้น