'สุวัจน์' นำชาวราชภัฏช่วยชาวโคราชกู้วิกฤติโควิด
อดีตรองนายกฯ นำชาวราชภัฏ ช่วยชาวโคราชกู้วิกฤติโควิด ผลิตพยาบาล พัฒนาอาชีพ และช่วยผู้ประกอบการ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวกับคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่บุคลากรของมหาวิทยาลัย ในโอกาสที่มีการประชุมบุคลากรของมหาวิทยาลัยประจำปีการศึกษา 2564 ร่วมกับ ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี ในหัวข้อ “การปรับตัวของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาภายหลังโควิด-19”
นายสุวัจน์ ได้กล่าวถึงภาพรวมของสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทย และของ จ.นครราชสีมา ว่า ความสำเร็จของการแก้ไข คือการที่จะต้องเร่งรัดการได้มาของวัคซีนที่มีจำนวนเพียงพอจากทุกแหล่ง และด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อเร่งระดมฉีดให้กับประชาชนทั้งประเทศ เพื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ที่วางแผนไว้ประมาณ 100 ล้านโด๊สให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในปีนี้ ยิ่งวัคซีนฉีดเร็ว โควิดก็จะจบเร็ว โควิดจบเร็ว เศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวเร็ว ขณะนี้ทุกประเทศทั่วโลกก็ระดมฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 1,800 ล้านโด๊ส เฉลี่ยวันละ
28-29 ล้านโด๊ส ของไทย เราก็ฉีดไปแล้วกว่า 3 ล้านโด๊ส คาดการณ์ไว้ว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวกับโควิด-19 น่าจะคลี่คลายได้ภายในสิ้นปีนี้
หลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับภัยโควิดในปัจจุบัน และปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องแก้ไขหลังจากโควิด-19 จบ ซึ่งขณะนี้ก็มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ใช้จ่ายเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท รวมทั้ง พ.ร.ก.กู้เงินฉบับใหม่อีก 5 แสนล้านบาท ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ก็คือ ความเดือดร้อนและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน การตกงาน ผู้ประกอบการขาดทุน เลิกกิจการ รวมทั้งความวิตกกังวลในเรื่องของโรคระบาด เรื่องความเจ็บป่วย การสูญเสียชีวิตต่างๆ
อดีตรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จึงขอให้ ชาวราชภัฏทุกคนร่วมกันคิดและแสวงหาทางออกในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในขณะนี้ และร่วมกันออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาเดือดร้อนตามบทบาทหน้าที่และเจตนารมณ์ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเพื่อตอบสนองความต้องการและปัญหาของท้องถิ่น ที่ผ่านมาท่านอธิการบดีและผู้บริหารและนักศึกษาได้ออกไปทำประโยชน์ช่วยเหลือสนับสนุนการแก้ปัญหาโควิด-19 ให้กับชาวโคราชเป็นอย่างดี การออกไปช่วยเป็นจิตอาสาร่วมกับโรงพยาบาลมหาราชในการรับลงทะเบียนการฉีดวัคซีน การสนับสนุนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ การออกไปมอบสิ่งเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับผู้ที่เดือดร้อน ในเรื่องเศรษฐกิจก็ออกไปช่วยให้คำแนะนำด้านวิชาการในการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การออกไปช่วยพัฒนาแหล่งน้ำตกเหวเสมา น้ำตกหินทรายที่สีคิ้ว การจัดทำผังแม่บทของการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมของวัดบ้านไร่ การเป็นแกนหลักรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยราชภัฏในการผลักดันให้โคราชเป็น GEO PARK เพื่อสร้างโคราชให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เมื่อโควิด-19 จบ พวกเราต้องพร้อมกันออกไปช่วยเรื่องเศรษฐกิจกันต่อ ช่วยคนตกงาน ช่วยสร้างอาชีพให้กับพวกเขา ช่วยเสริมสร้างทักษะและขีดความสามารถให้กับ SMEs และผู้ประกอบการ ให้ยืนอยู่ต่อสู้กับวิกฤติให้ได้ และนอกจากนั้นมหาวิทยาลัยโดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยได้มีมติอนุมัติให้มีการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางด้านสาธารณสุขให้เพียงพอ เพื่อต่อสู้กับปัญหาการโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นอีก และดูแลสุขภาพให้ชาวโคราช โดยจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2565 นี้โดยจะรับรุ่นที่ 1 ได้ถึง 72 คน
"ขอเชิญชวนชาวราชภัฏโคราช ร่วมมือร่วมใจ ผนึกกำลังกันกับคนชาวโคราชตามบทบาทหน้าที่ของการเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อฟันฝ่าวิกฤติโควิดไปด้วยกัน เพื่อความอยู่ดี กินดี ของชาวโคราชตลอดไป” นายสุวัจน์กล่าว.