ผบช.น. สั่ง 3 ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน พัวพันอุ้มนักธุรกิจกรรโชกทรัพย์
ผบช.น. สั่ง 3 ตำรวจสังกัด บก.จร.ออกจากราชการไว้ก่อน-ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง หลังพัวพันคดีอุ้มข่มขู่กรรโชกทรัพย์นักธุรกิจ
1 มิ.ย.2564 ภายหลังเกิดเหตุแก๊งต่างชาติอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวันไปจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่สน.ทองหล่อ ก่อนนำตัวไปเรียกค่าไถ่ ซึ่งจากการสอบสวนพบว่ามีทั้งคนร้ายที่เป็นชาวต่างชาติและคนไทยร่วมกันข่มขู่กรรโชกทรัพย์ โดยล่าสุดทางด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่สน.ทองหล่อ คนร้ายชาวต่างชาติและคนไทยร่วมกันข่มขู่กรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหาย กระทั่งตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเข้าจับกุมดำเนินคดี เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีผู้กระทำความผิดทั้งหมด 16 คน พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อได้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 16 คน เป็นชาวต่างชาติ 6 คน, คนไทย 10 คน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยอีกว่า ภายหลังออกหมายจับได้แล้ว ชุดสืบสวนสน.ทองหล่อได้ติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 9 คน เป็นชาวต่างชาติ 2 คน และคนไทย 7คน โดยในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร จึงให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง และให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 นายออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมเพิ่มเติม ขณะนี้มีข้อมูลว่ายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่่กองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่บางส่วนได้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลการสืบสวนสอบสวนพบว่า คนร้ายแก๊งนี้ยังมีการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่สน. ลุมพินี โดยเป็นชาวบังคลาเทศร่วมกับคนไทยรวม 6 คน จึงได้ให้พนักงานสอบสวนไปขอศาลออกหมายจับได้ครบทุกคนแล้ว และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วบางส่วนแล้ว
อย่างไรก็ตามจาการสอบสวนพบว่ามูลเหตุในการขู่กรรโชกทรัพย์ครั้งนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่า เกิดจากปัญหาติดหนี้สินและค้างค่าถุงมือยางทางการแพทย์ซึ่งผู้ต้องหาแก๊งดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากชาวต่างชาติมาอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าคดีดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหาชาวไทยหรือต่างชาติหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการละเว้น
สำหรับรายชื่อตำรวจที่ถูกดำเนินคดี คือ ส.ต.ท.ยุทธสาน ยิงรัมย์ และส.ต.ท.ศตวรรษ พ่วงสูงเนิน