ตม.โชว์ผลประจำสัปดาห์ 'แก๊งมังกร ปล่อยกู้ดอกโหด'

 4 มิ.ย. 2564 เวลา 10.30 น.พลตำรวจตรี ณฐพล แสวงกิจ รอง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1(ผบก.ตม.1) และพลตำรวจตรี วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ร่วมกันนำผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำสัปดาห์ ของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และ 2 มาเผยแพร่สู่สาธารณะ

คดีแรก เป็นผลงายของ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ทลายแก๊งแดนมังกร ปล่อยเงินกู้ดอกมหาโหด สามารถจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีได้ 3 ราย 1.นายฉู อายุ 49 ปี 2.นายจื่อปิง อายุ 31ปี สัญชาติจีน และนายจะละ อายุ 32 ปี สัญชาติไทย

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายฉู ได้ทำเรื่องขออนุญาตอยู่ต่อในประเทศเพื่อปฏิบัติงาน ในฐานะกรรมการบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบที่บริษัท ย่านอาร์ซีเอ พบชุดรักษาความปลอดภัย ลักษณะตัดผมเกรียน คล้าย ทหาร ตำรวจ มีอุปกรณ์ครบมือจำนวนหลายคน ยืนประจำจุดรอบตัวอาคาร ส่วนด้านในพบ ทั้งคนไทยและบุคคลต่างด้าวกว่า 10 ราย กำลังทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น PIGLOANและBEATLOAN ที่ให้บริการสินเชื่อ คิดอัตราดอกเบี้ยเกินว่าที่กฎหมายกำหนด บางส่วนยังมีการเปิดเว็ปไซต์ ibetter.app ให้เล่นพนันออนไลน์

พนักงานทั้งหมดยอมรับว่า ทำงานให้กับเอกชนรายนี้มากว่า 3 เดือน ได้รับค่าจ้างเดือนละ 14,000-15,000 บาท จ่ายเป็นเงินสดป้องกันการตรวจสอบเส้นทางการเงิน นอกจากนี้ ภายในอาคาร ยังสามารถตรวจยึดเหล้าและไวน์หนีภาษีมากกว่า 700 ขวด มูลค่าหลายล้านบาท

เบื้องต้น ได้ดำเนินคดีกับนายฉู /นายจื่อปิง และนายจะละ ในฐานะกรรมการบริษัท ในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต/ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด/ร่วมกันจัดให้เล่นการพนัน/ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่เสียภาษี และรับบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนพนักงานที่ทำงานในบริษัทได้ตรวจสอบและดำเนินคดีในแต่ความความผิด

คดีที่ 2 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ติดตามจับกุมผู้ต้องหา สมาชิกแก๊ง “Kong River” หลอกสาวไทยให้หลงเชื่อก่อนโอนเงิน ทรัพย์สิน ให้กับคนร้าย ทราบชื่อ คือนายSOLOMON อายุ 21 ปี สัญชาติไนจีเรีย

การจับกุมเกิดขึ้นภายหลัง ได้รับการประสานจาก ป.ป.ส. ว่า มีสมาชิกแก๊ง KONG RIVER เดินทางหลบหนีเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ กระทำความผิดเกี่ยสกับยาเสพติด และก่อเหตุ โรแมนซ์ สแกม โดยพักอาศัยอยู่ในอาคารแห่งหนึ่ง ซอยคู้บอน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนสมาชิกอีก 1 รายหลบนีไปได้

จากการตรวจสอบ ผู้ต้องหาไม่มีเอกสารการเดินทางเข้าประเทศ ตรวจค้นห้อง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตรวจสอบโทรศัพท์ พบการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ในการคุย หลอกล่อกับสาวไทยและต่างชาติ มีการแสดงโปรไฟล์ว่าเป็นนักธุรกิจ มีรายได้สูง เพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ และโอนเงินให้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป

คดีที่ 3 เป็นผลงานของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สามารถจับกุม 2 สาว ชาวจีน ที่ปลอมแปลงเอกสารใบอนุญาตการเดินทางในช่วงโควิด โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 เดินทางมาจากฮ่องกง ด้วยสายการบิน เอมิเรตส์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน EK385 เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งด่านควบคุมโรค ตรวจสอบใบอนุญาตการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ที่ออกโดยสถานกงสุลใหณ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ พบกว่า Scan QR Code ไม่ตรงกับเอกสาร มีการปลอมเที่ยวบิน และวันที่การเดินทาง

เมื่อตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่นักการทูตชำนาญการ พบว่าเป็นเอกสารปลอมจริง จึงได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวนพร้อมดำเนินคดีในข้อหา ปลอม และใช้เอกสาราชการปลอม ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป

คดีสุดท้าย เป็นผลงานของ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุมชาวบังกลาเทศ 2 ราย หลบหนีเข้าเมือง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าหน้าที่ ตม.2 กำลังเดินตรวจตราอยู่ในห้องโถง ที่พักผู้โดยสารขาออก ที่ชั้น 4 ประตู 3 ท่าอากาศสุวรรณภูมิ แสดงอากาพิรุธ จึงเข้าตรวจสอบหนังสือเดินทาง ไม่พบตราประทับการเข้ามาประเทศไทย จึงเชิญตัวไปสอบปากคำ

ทั้ง 2 ยอมสารภาพว่า ได้หลบหนีเข้ามาโดยช่องทางธรรมชาติ และกำลังจะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยตั้งใจมาขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ไปต่อเครื่องบินไป จ.นราธิวาส เดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว ส่งให้พนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต