โบรกฯ เปิดโผ 20 หุ้นเด่น รับประโยชน์ภาครัฐหนุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
“เอเซีย พลัส” เพิ่มคำแนะนำลงทุน 3 กลุ่ม หุ้นอานิสงส์รัฐบาลหนุนยานยนต์ไฟฟ้า “นิคม-โรงไฟฟ้า-ชิ้นส่วนรถยนต์” เชื่อผลตอบแทนดีหากถือลงทุนระยะกลาง-ยาว ฝั่ง “หยวนต้า” สแกนหุ้นเด่นรายกลุ่มรับกระแสเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับแผนสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย เพราะรัฐบาลมีพัฒนาการเชิงรุกต่อประเด็นดังกล่าวมากขึ้น ภายหลังนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผยถึงความคืบหน้าในการเจรจากับบริษัทต่างชาติเพื่อลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยประมาณ 2-3 บริษัท
โดยแนะนำกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์ทางตรงจากการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายที่ดินมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ระดับค่อนข้างถูก และมีโอกาสปรับขึ้น (อัพไซด์) มากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยเลือก บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) และ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เป็นหุ้นเด่น
ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้า คาดว่าจะมีแรงซื้อในหุ้นโรงไฟฟ้าที่เริ่มศึกษาและมีการเปิดเผยถึงแผนการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าชัดเจน ได้แก่ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) และ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) นอกจากนี้ ยังแนะนำซื้อ บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.บ้านปู (BANPU) ที่มีเงินลงทุนในบริษัทย่อย GPSC และ BPP ตามลำดับ อีกทั้ง PTT ได้ประกาศจับมือกับฟ็อกซ์คอนน์ กรุ๊ป (Foxconn) ซึ่งเป็นผู้นำการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เพื่อลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ขณะที่กลุ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แนะนำเลือกซื้อรายตัว (Selective Buy) โดยเลือก บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) เป็นหุ้นเด่น เพราะธุรกิจการผลิตหลอดไฟรถยนต์ของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านของรถยนต์สันดาปมาสู่รถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี แม้ราคาหุ้นทั้ง 3 กลุ่มจะปรับขึ้นในระยะสั้นตอบรับข่าวเชิงบวก แต่การลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนควรเป็นการลงทุนในระยะกลาง-ยาว เพราะคาดว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้ายังไม่มีกำไรในเร็วๆ นี้
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้จะยังไม่เห็นกำไรจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเร็วๆ นี้ แต่มองว่าจังหวะเวลาปัจจุบันไม่ถือว่าเร็วเกินไปที่จะเข้าซื้อเก็งกำไรเพื่อรับผลตอบแทนจากการลงทุนในอนาคต โดยแนะนำหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มหุ้นที่ประกาศลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งโรงงานแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า
ส่วนอื่นๆ แนะนำ PTT จากการจับมือกับกลุ่ม Foxconn สร้างระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ยานยนต์ไฟฟ้า, บมจ.นามยง เทอร์มินัล (NYT) ได้ประโยชน์จากการนำเข้าและส่งออกรถยนต์ และ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ได้ประโยชน์จากฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป