‘ไดกิ้น’ดักโอกาสเมกะเทรนด์สุขภาพ ดันนวัตกรรม‘สตรีมเมอร์’เขย่าคู่แข่ง

สราวุธ เต็มภัทรศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ไดกิ้น” ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านระบบปรับอากาศระดับโลก มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ซึ่งล่าสุดได้มีการปรับกลยุทธ์โฆษณาครั้งใหญ่ ภายใต้เป้าหมาย ปรับทุกอากาศให้สมบูรณ์แบบ (Perfecting the Air) เพื่อส่งมอบอากาศที่ดีและบริสุทธิ์ให้ผู้บริโภค

"เทรนด์โลกเปลี่ยนไป ปีนี้ไดกิ้นจะมุ่งสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญและตระหนักถึงคุณค่าของอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวและเราใช้หายใจตลอดเวลา แต่มักถูกมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะอาด ความชื้น ซึ่งล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรับประทานวันละ 3 มื้อ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เรื่องเหล่านี้ผู้คนยังให้ความสำคัญทั้งคุณภาพและความสะอาด แต่พอเป็นเรื่องอากาศ คนบางกลุ่มอาจไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไรนัก”

เดิมโฆษณาของไดกิ้น ใช้พระเอกชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งแต่ปี 2558 ช่วยให้แบรนด์ไดกิ้นเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ตอบโจทย์การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ขณะที่ภาพยนตร์โฆษณาที่เปิดตัวเมื่อเดือน มี.ค. ได้ถ่ายทอดแนวคิดเรื่องอากาศผ่านตัวตนของ 3 KOL (Key Opinion Leader) ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย ได้แก่ นิ้วกลม “สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์” เป็นตัวแทนของนักคิด  บูม “ธริศร ธรณวิกรัย” ตัวแทนของ  Perfectionist เป็นคนที่รักครอบครัว และ เฟื่องลดา “สรานี สงวนเรือง” ตัวแทนของผู้ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี  ทั้ง 3 คนนี้เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นประจำ! 

“โฆษณาถูกปล่อยในเชิงการตั้งคำถามถึงผู้บริโภค คุณนิ้วกลม ตัวแทนของกลุ่มนักคิด มาตั้งคำถามว่า...นิยามอากาศที่ดีของคุณ นึกถึงอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่เคยนึกถึง ส่วนคุณธริศร และคุณเฟื่องลดา มาร่วมให้นิยามอากาศที่ดีในความหมายของเขา จากนั้นจึงมีโฆษณาตัวเฉลยว่าที่คุณหาอากาศที่ดีนั้น เครื่องปรับอากาศไดกิ้นเซ-ต้าส มีสิ่งเหล่านี้”

ทั้งนี้ บริษัทเปิดตัวเครื่องปรับอากาศไดกิ้น “เซ-ต้าส” (ZETAS) ที่นำเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ (Streamer) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของไดกิ้นติดตั้งเข้าไป ซึ่งได้รับการยืนยันประสิทธิภาพจากมหาวิทยาลัยโตเกียว และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์โอคายาม่า ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงสถาบันในประเทศไทย ซึ่ง ไดกิ้น ได้ประกาศความร่วมมือทางวิชาการอย่างเป็นทางการกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ ที่อยู่ในเครื่องปรับอากาศไดกิ้น เซ-ต้าส เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าชาวไทยในการเป็นหนึ่งในตัวช่วยยับยั้งไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ได้

เทรนด์โฆษณาในตลาดเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันทุกแบรนด์พูดถึงจุดขายในเรื่องคล้ายกัน ทั้งเรื่องดีไซน์ การประหยัดไฟ แต่ไดกิ้นเพิ่มเติม Better Life Value ด้วยการมอบอากาศสะอาด ที่ไม่ใช่แค่จากฝุ่น PM2.5 แต่เป็นความสะอาดจากไวรัสด้วย 

และที่ผ่านมา กลยุทธ์การโฆษณาของไดกิ้น เน้นสื่อสารถึงจุดขายในเครื่องปรับอากาศ ทั้งเรื่องสารทำความเย็น “R32” เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแผงวงจรทนทานต่อไฟตก ไฟกระชาก การออกแบบคอยล์ร้อนที่ลดโอกาสที่จิ้งจกจะเข้าไปตายในแผงวงจร

“เราทำการบ้านอย่างหนักว่า pain point คืออะไร และพัฒนาสินค้ามาเพื่อตอบโจทย์เหล่านั้น ซึ่งจุดที่เรานำมาสื่อสารเป็นจุดขาย มักพูดก่อนแบรนด์อื่นเสมอ จากเดิมคนกังวลเรื่องอากาศสะอาดจาก PM 2.5 แต่วิกฤติโควิด-19 กลายเป็นว่าการออกไปนอกบ้านต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ไม่ได้รับความสะดวกในการหายใจ ซึ่งเทคโนโลยีสตรีมเมอร์ที่มีอยู่ในไดกิ้น เซ-ต้าส จะช่วยให้ผู้บริโภคเย็นกายแต่อบอุ่นหัวใจจากการหายใจในบ้านได้”

อาคิฮิสะ โยโคยามา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีสตรีมเมอร์เอกสิทธิ์เฉพาะของไดกิ้น เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้เครื่องปรับอากาศที่ใช้ภายในบ้านในประเทศไทย ที่ไม่เพียงคำนึงถึงการทำความเย็น แต่ยังมอบอากาศที่ดีและสมบูรณ์แบบแก่ผู้ใช้งานมากขึ้น ที่สำคัญเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในการพัฒนาและ “ต่อยอด” เทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพที่สามารถพิสูจน์ได้