AEC คาดผู้ถือหุ้นเดิมใส่เงินเพิ่มทุนครบ ลุยธุรกิจใหม่ดันกำไรโต

AEC คาดผู้ถือหุ้นเดิมใส่เงินเพิ่มทุนครบ   ลุยธุรกิจใหม่ดันกำไรโต

“บล.เออีซี” คาด ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนครบ 2.85 พันล้านหุ้น  หวังนำเงินไปเพิ่มทุน “ เอช อินคอร์ปอเรชั่น”เพื่อลุยธุรกิจใหม่  ไทย สมายล์ บัส พร้อมเตรียมลงทุนธุรกิจอื่นๆเพิ่ม จ่อปลดเครื่องหมาย Cกลางก.ค.นี้ 

น.ส. ออมสิน ศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เออีซี จำกัด (มหาชน)หรือ  AEC เปิดเผยว่า  บริษัทคาดว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน  2,856,581,091 หุ้น ที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO)ในราคาหุ้นละ 0.35 บาท ซึ่งกำหนดชำระค่าหุ้นในวันที่ 11-17 มิ.ย.2564  ได้เต็มจำนวน   เนื่องจากเป็นราคาที่ต่ำกว่าในกระดาน และบริษัทมีแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี

สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทจะได้เงินจำนวน 999.80 ล้านบาท หากมีการใช้สิทธิครบทั้งจำนวน  จะนำเงินดังกล่าวไปใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท เอช อินคอร์ปอเรชั่น (ACE)171.50 ล้านบาท จากถือหุ้นสัดส่วน 49%   โดยACE จะเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมไม่เกิน 350 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด(TSB) 100%   โดยซึ่งถือหุ้นใน 9 บริษัท ที่ประกอบธุรกิจการเดินรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะทำรายการเสร็จในไตรมาส3ปีนี้ 

ส่วนเงินเพิ่มทุนที่เหลือบริษัทจะนำไปสำรองในการขยายการเติบโตธุรกิจของบริษัท  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับด้านเทคโนโลยี ที่สามารถต่อยอดกับธุรกิจของTSB ได้ 

“เมื่อเข้าถือหุ้น TSB แล้วบริษัทจะทำหน้าที่ในการบริหารด้านการเงิน ส่วน  TSB จะทำหน้าที่ในการเดินรถโดยสาร ซึ่งอนาคต TSB มีแผนเพิ่มจำนวนรถในการรับส่งผู้โดยสารมากขึ้น ” 

นอกจากนี้หากบริษัทเพิ่มทุนสำเร็จก็จะทำให้บริษัทมีส่วนผู้ถือถือหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น และบริษัทจะมีการยื่นขอตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เพื่อปลดเครื่องหมาย  Cหุ้นของบริษัท คาดประมาณกลางเดือนก.ค.  แต่ในส่วนของการล้างขาดทุนสะสมนั้น คาดว่าจะดำเนินการในปีหน้า

  น.ส. ออมสิน กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจากธุรกิจใหม่ไทยสมายบัส จะมีสัดส่วนกำไร 3ใน4ของบริษัท ขณะที่ธุรกิจหลักทรัพย์จะมีสัดส่วนกำไรเพียง1 ใน4 เพราะธุรกิจใหม่มีผลการดำเนินดีกว่า โดยในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์ขณะนี้เป็นการดำเนินธุรกิจแบบประคองตัว โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะส่งคำสั่งซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น เพราะ บริษัทเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน (มาร์เก็ตติ้ง)เพียง12 คน ซึ่งยังไม่มีแผนขยายเพิ่ม   เพราะตอนนี้จะเน้นทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

ทั้งนี้หากบริษัทมีผลกำไร อนาคตมีแผนที่จะปรับโครงสร้างบริษัทเป็นโฮลดิ้งส์คอมพานี เพื่อจะได้ลงทุนธุรกิจต่างๆได้มากขึ้น แต่หากบริษัทไม่มีกำไรยังไม่สามารถปรับเป็นโฮลดิ้งส์คอมพานีได้

      

นางศศิวิมล เทศะภู เลขานุการ บล.เออีซี แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า  จากที่มีการเผยแพร่ข้อความในกลุ่มนักลงทุน ผ่านช่องทาง LINE application เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างการบริหารของบริษัท เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. โดยจะมีนักลงทุนรายใหญ่ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์อื่น รวมถึงเจ้าหน้าที่การตลาดจำนวนมากเข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจในบริษัทฯ นั้น

      บริษัทฯ ขอเรียนปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว เนื่องจากคณะผู้บริหารของบริษัทฯ ไม่ได้มีการเจรจา หรือพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างการบริหารในลักษณะที่ปรากฏตามข้อความนั้น โดยบริษัทฯ ดำเนินการในลักษณะการจัดโครงสร้างภายในขององค์กร และดำเนินงานตามแผนการที่ได้ชี้แจงไปแล้ว