12 รายเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับ 'วัคซีนโควิด-19' อีก 15 รายรอผล

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งแต่ 28 ก.พ.- 8 มิ.ย.2564 มีการจัดสรรวัคซีนไปแล้ว 6,756,493 โดส เป็นซิโนแวค 4,982,313 โดส และแอสตร้าเซนเนก้า 1,774,180 โดส

ฉีดไปแล้วสะสม 5,107,069 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 3,672,472 ราย ซิโนแวค 2,913,710 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 757,662 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 1,434,697 ราย ซิโนแวค 1,399,362 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 35,335 ราย

เฉพาะวันที่ 8 มิ.ย. ฉีดเพิ่ม 472,128 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 428,459 ราย ซิโนแวค 134,926 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 293,533 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 43,669 ราย ซิโนแวค 38,665 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 5,004 ราย

และสะสมตั้งแต่ 7มิ.ย.หลังการคิกออฟปูพรมทั่วประเทศ 888,975 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 817,331 ราย ซิโนแวค 196,075 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 621,256 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 71,644 ราย ซิโนแวค 62,004 ราย และแอสตร้าเซนเนก้า 9,640 ราย

สำหรับระบบการเฝ้าระวัง "อาการไม่พึงประสงค์" ได้มีการเก็บรวบรวมทั้งหมด ตั้งแต่อาการเล็กๆ ไปจนถึงอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต ทั้งนี้ อาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงอาจเป็นปฏิกิริยาของร่างกาย ซึ่งใช้คำว่า “ผลข้างเคียง” ปฏิกิริยาของร่างกายที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ซึ่งวัคซีนก็เช่นกัน แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน เวลามีเชื้อโรคมาจริงๆ จะได้ไปต่อสู้เอาชนะ ในการช่วยลดความรุนแรง ลดการป่วย ลดการเสียชีวิต จนถึงลดการแพร่กระจายเชื้อ

ผลการ พิจารณาของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกรณีเสียชีวิตภายหลัง การได้รับวัคซีน โควิด-19 ข้อมูล ณ เวลา 16.30 น.วันที่ 8 มิ.ย. 2564 จำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับรายงาน 27 ราย โดยในจำนวนนี้ได้รับการพิจารณาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญฯแล้ว 12 ราย ว่า เป็น "เหตุการณ์ร่วม" ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน/การฉีดวัคซีน โดยเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 8 ราย ภาวะImmune Thrombotic thrombocytopenic putpura 1 ราย ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 1 ราย purulent menningitis 1 ราย และเลือดออกในช่องท้องจากIntraabdominal aneurysm 1 ราย ส่วนอีก 15 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค หรือรอผลการผ่าชันสูตรพลิกศพ

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ตามระบบการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการเข้ารับวัคซีน เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ต้องมีการตรวจสอบทุกราย โดยระดับพื้นที่จะรวบรวมข้อมูลและรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นจะมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่เป็นแพทย์สาขาต่างๆในระดับเขตสุขภาพ เพื่อพิจารณาสาเหตุดูว่ามีคว่ามเชื่อมโยงกับวัคซีนหรือไม่ ซึ่งการพิจารณาจะดูตั้งแต่กาารดูแลรักษา การผ่าชันสูตร ส่งชิ้นเนื้อตรวจและอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต

"ยกตัวอย่าง กรณีที่จ.ปทุมธานี ที่มีการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน เมื่อมีการตรวจสอบพบว่ามีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง ไม่เกี่ยวกับวัคซีน ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว สามารถฉีดวัคซีนได้เกือบทุกโรค ถ้าในวันที่เข้ารับการฉีดสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้มีการกำเริบของโรค หรือควบคุมโรคไม่ได้ ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ โดยไม่ต้องเลื่อนนัด" นพ.เฉวตสรรกล่าว