ปศุสัตว์เพชรบุรี สั่งล่าคนทิ้งซากหมูลงคลอง
ปศุสัตว์ เพชรบุรี ประกาศให้รางวัลนำจับผู้ทิ้งทำลายซากสุกรไม่ถูกวิธี อำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากกรณีมีการลักลอบเคลื่อนย้ายนำซากสุกร ไปทิ้งในที่สาธารณะและคลองน้ำ ในชุมชนบ้านบึงกระจับ อำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี นั้นสำนักงานปศุสัตว์อำเภอท่ายาง สนธิกำลังกับผู้นำชุมชนดำเนินการฝังซากตามมาตรฐาน พร้อมแจ้งความดำเนินคดี และตั้งรางวัลนำจับผู้ที่แจ้งเบาะแส เป็นจำนวน 10,000 บาท เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
นางขนิษฐา ธิติดิลกรัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจากนายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง ซึ่งได้รับการร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นจากฟาร์มหมูที่ตั้งอยู่ชุมชนบ้านบึงกระจับ หมู่ 2 วังขุนด่าน เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2564 จึงได้สั่งการให้ปศุสัตว์อำเภอท่ายาง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที พบว่าไม่ได้ทำลายซากสัตว์อย่างถูกวิธี
จึงสั่งการให้ปศุสัตว์อำเภอออกคำสั่งเป็นหนังสือเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2564 ให้เจ้าของฟาร์มทำการฝัง หรือเผา ตามมาตรา 13(2) หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของสัตวแพทย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังต้องแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 11 ที่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ภายในเวลา 12 ชั่วโมง ตั้งแต่ทราบว่าสัตว์ป่วยตาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย
“สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีไม่ได้นิ่งนอนใจ ในปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยทำการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวอย่างทันท่วงที และดำเนินการแก้ปัญหาโดยด่วนที่สุด สำหรับฟาร์มที่ถูกอ้างอิงนั้น เจ้าของฟาร์มแจ้งว่าทำการพักเล้าและไม่มีสุกรแล้ว อย่างไรก็ตามปศุสัตว์พื้นที่ได้เก็บตัวอย่างซากสุกรเพื่อส่งตรวจเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไปแล้ว” ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี กล่าว
ทั้งนี้จากการประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้ทราบว่าด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ได้สกัดจับผู้ที่ลักลอบเคลื่อนย้ายสุกร เมื่อคืนวันที่ 28 พ.ค. 2564 ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีและปศุสัตว์อำเภอท่ายาง จึงเร่งค้นหาฟาร์มที่มีสัตว์ป่วย โดยการสำรวจ เก็บตัวอย่าง Surface swap ในรัศมี 5 กิโลเมตร จากพิกัดที่ทราบจากเจ้าหน้าที่ด่านฯ โดยส่งตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2564 จำนวน 11 ฟาร์ม ผลตรวจโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก ออกมาแล้วพบว่า ตัวอย่างทั้งหมดไม่พบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดยคาดว่าสุกรป่วยจากโรคเพิร์ส หรือ PRRS