'รบ.เมียนมา' เพิ่มข้อหาคอร์รัปชัน ‘ซูจี’ โทษสูงสุด 15 ปี
ปปช.เมียนมา อ้าง "อองซาน ซูจี" ใช้อำนาจมิชอบ เช่าที่ดินมูลนิธิ และรับสินบนเป็นทองคำแท่ง เงินสดรวม 600,000 ดอลลาร์ มีโทษสูงสุดจำคุก 15 ปี
สื่อต่างประเทศรายงานในวันนี้ (11 มิ.ย.) รัฐบาลเมียนมา ได้ตั้งข้อหาคอร์รัปชันเพิ่มให้กับ นางอองซาน ซูจี อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือน วัย 75 ปี ที่โดนยึดอำนาจและกักบริเวณที่บ้านพักในกรุงเนปิดอว์ นับแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์อ้างโกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมา ซึ่งเป็นสื่อของทางการเมียนมา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายนว่า คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ปปช.) ของเมียนมา ได้ยื่นฟ้องนางซูจีและอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลชุดที่แล้วอีกหลายคนที่สถานีตำรวจในกรุงเนปิดอว์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ข้อหาล่าสุดที่คณะกรรมการป.ป.ช.ของเมียนมา กล่าวหานางซูจี เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเช่าที่ดินเพื่อใช้สำหรับมูลนิธิขิ่นจี ซึ่งนางซูจีเป็นประธาน มูลนิธินี้ตั้งชื่อตามชื่อมารดาของเธอ นอกจากนี้ยังรวมถึงข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ที่ว่า นางซูจีรับสินบนเป็นเงินสดและทองคำ
ข้อหารับสินบนนั้นอ้างอิงจากคำกล่าวอ้างของอดีตมุขมนตรีเขตย่างกุ้ง ที่ว่านางซูจีรับเงินสดจากเขา 600,000 ดอลลาร์ หรือราว 18.69 ล้านบาท และทองคำแท่ง 7 แท่ง น้ำหนักรวม 11 กิโลกรัม
สื่อทางการเมียนมายังรายงานว่า นางซูจี ถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 55 ของกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชัน ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 15 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิด
ก่อนหน้านี้ นางซูจี ถูกตั้งข้อหามาแล้วหลายคดี เริ่มตั้งแต่การครอบครองวิทยุสื่อสารแบบผิดกฎหมาย ไปจนถึงการทำผิดกฎหมายความลับทางราชการ ซึ่งผู้สนับสนุนนางกล่าวว่าเป็นคดีที่มาจากแรงจูงใจทางการเมือง
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานด้วยว่า ศาลในกรุงเนปิดอว์จะเริ่มไต่ส่วนคดีการครอบครองวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้ขออนุญาต และข้อหาละเมิดมาตรการควบคุมการแพร่เชื้อโควิด-19 จากการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายนนี้
จากนั้นในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน นางซูจีมีกำหนดขึ้นศาลในข้อหาปลุกปั่น ที่ถูกฟ้องร่วมกับอดีตประธานาธิบดีวิน มยิน และสมาชิกอาวุโสของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) อีกคน
ขิ่น หม่อง ซอ ทนายความของนางซูจี ให้ความเห็นถึงข้อหาใหม่ที่นางซูจีถูกดำเนินคดีว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นความพยายามสกัดกั้นนางซูจีออกจากเส้นทางการเมือง และทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเขาบอกไม่ได้ว่า การเลือกตั้งในอีก 2 ปีจะเกิดขึ้นตามที่รัฐบาลทหารสัญญาไว้หรือไม่ แต่อาจจะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่มีพรรคเอ็นแอลดี และถ้านางซูจีถูกตัดสินว่ามีความผิดตามข้อหาคอร์รัปชันจริง จะทำให้เธอถูกตัดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง