'ซัมมิทฟุตแวร์' ควัก 310 ล้านบาท ซื้อลิขสิทธิ์ EURO 2020
“ซัมมิทฟุตแวร์” ควัก 310 ล้านบาท ซื้อลิขสิทธิ์ EURO 2020 ยก NBT ยิงสด 51 แมตช์
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธาน การแถลงข่าวการถ่ายทอดสด "ฟุตบอลยูโร 2020" ที่สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท จ.ปทุมธานี ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์, คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติและบร บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด โดยระบุว่า
ฟุตบอลยูโร 2020 ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนทั่วโลก ในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีกระแสเรียกร้องของพี่น้องประชาชนที่ต้องการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 เพราะที่ผ่านมามีการถ่ายทอดสดมาตลอดโดยภาคเอกชน แต่ในครั้งนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน ยังไม่มีผู้ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด จึงสะท้อนไปถึงนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ให้ติดต่อเรื่องการถ่ายทอดให้คนไทยได้ดู
มีการติดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในฝ่ายต่างๆ จนได้ติดต่อให้กรมประชาสัมพันธ์โดยเอ็นบีที เป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดสด หลังจากนั้นได้ประสานฝ่ายต่างๆ ในการเจรจาสัญญาและช่องทางการถ่ายทอดสด แต่เมื่อติดเรื่องค่าใช้จ่าย จึงต้องแก้ปัญหาให้สามารถถ่ายทอดสดให้ทันเวลา โดยประสานไปยังนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ให้เป็นผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลดูยูโร2020 ในครั้งนี้
“การแข่งขันฟุตบอลยูโร ถือเป็นรายการที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจมาก ซึ่งแต่ละปีจะมีภาคเอกชนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน จึงมีการสะท้อนมาถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จึงได้มอบหมายให้ผมลงมาประสานเพื่อนำการถ่ายทอดสดรายการดังกล่าวมาให้ประชาชนคนไทยได้ชม
เรามีเวลาในการประสานแบบจริงจังเพียง 2 วันเท่านั้น ซึ่งได้ปรึกษาฝ่ายที่เกี่ยวข้องและตกลงให้ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการประสานไปยังเจ้าของสิทธิ์ เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งเดิมเราได้คุยกับภาครัฐและเอกชนมากมาย ซึ่งก็สนใจจะเข้ามาสนับสนุน แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด”
นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัททุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร2020 เพียงผู้เดียว และมอบให้ NBT ถ่ายทอดสดให้ชม ทำให้คนไทยได้ชมการแข่งขันแบบครบทุกคู่และไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐเลย การซื้อซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ใช้เงินกว่า 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 310 ล้านบาท
“ตอนแรกที่คุยกันคิดว่าจะช่วยสนับสนุน 10 ล้านบาท แต่ด้วยเวลากระชั้นชิด จึงจำเป็นต้องทุ่มเงินเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเข้ามาเพียงผู้เดียว ซึ่งใช้เวลาในการตัดสินใจเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น โดยขณะนี้การเซ็นสัญญาได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าประชาชนคนไทยจะได้รับชมครบทุกคู่อย่างแน่นอน”
ส่วนในเรื่องของการถ่ายทอดสด จะให้ NBT เป็นช่องหลักในการถ่ายทอดสดก่อน และกำลังดูช่องอื่นๆเข้ามาเสริมหากมีการแข่งขันพร้อมกัน ซึ่งในรายละเอียดต้องรออีกซักนิด แต่รับรองว่าได้ชมครบทุกคู่อย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวล