'คลัง' ยัน ลงทะเบียน 'คนละครึ่งเฟส 3' ครอบคลุมผู้มีสิทธิ 'คนละครึ่ง' ทั้งหมด
โฆษก "คลัง" วอนประชาชนสนใจร่วม "คนละครึ่งเฟส 3" ทยอยลงทะเบียน "คนละครึ่ง" เพื่อไม่ให้เกิดความแน่นจนทำให้ระบบเกิดความล่าช้า ระบุ จำนวนเปิดรับ 31 ล้านคนได้ประเมินจากผู้มีสิทธิร่วมโครงการที่ครอบคลุมแล้ว แต่พร้อมปรับเพิ่มหากพบมีความต้องการเกินจำนวน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่แสดงความสนใจเข้าร่วม ลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3 ได้ทยอยลงทะเบียนร่วมโครงการทั้งผ่านแอพ เป๋าตัง และ www.คนละครึ่ง.com เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นจนทำให้ระบบในการลงทะเบียนมีความล่าช้า โดยโครงการนี้ เปิดรับผู้ร่วมโครงการจำนวนมากถึง 31 ล้านคน ซึ่งมากกว่าโครงการคนละครึ่งเฟสหนึ่งและ เฟสสองที่มีผู้ร่วมโครงการรวม 15 ล้านคน
เธอกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้คำนวณจำนวนผู้ที่จะมีสิทธิเข้าร่วมโครงการรัฐจากมาตรการลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ใน 4 มาตรการประมาณ 51 ล้านคน แบ่งเป็น โครงการเยียวยาผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.65 ล้านคน โครงการเยียวยากลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ 2.5 ล้านคน โครงการคนละครึ่งเฟสสาม 31 ล้านคน และ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 4 ล้านคน
“เราได้ประเมินแล้วว่า จำนวนผู้มีสิทธิในโครงการเหล่านี้จะมีประมาณ 51 ล้านคน ดังนั้น แต่ละโครงการก็จะมีความคลอบคลุมผู้มีสิทธิทั้งหมด จึงไม่จำเป็นต้องรีบมาลงทะเบียน และเราก็พร้อมปรับโยกจำนวนคนใน 2 โครงการ คือ คนละครึ่งและยิ่งใช้ยิ่งได้ หากว่า โครงการใดมีความต้องการมากกว่าที่เราคำนวณ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับการ ลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3 นี้ จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนวันแรกในวันที่ 14 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐร่วมจ่าย 50% สำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ
ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 1,500 บาทต่อคน ในแต่ละรอบ รอบแรกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 และรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
ประชาชนสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น. - 22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน
ผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐ อาทิ ชิมช้อปใช้ เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน เราชนะ เป็นต้น หรือที่เคยใช้บริการกระเป๋าตังสุขภาพ หรือ วอลเล็ต สบม. สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นการยืนยันเข้าร่วมโครงการ หรือจะลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ก็ได้
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง สามารถลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS แจ้งสิทธิภายใน 3 วัน จากนั้น ขอให้ท่านยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง ได้แก่ 1.ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย หรือ 2.ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้
3.ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯและสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ในเวลา 06.00 น.– 23.00 น.
กรณีผู้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 3 แล้ว หากต้องการจะเปลี่ยนไปรับสิทธิโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” (จะเปิดให้ลงทะเบียนสำหรับประชาชนในวันที่ 21 มิ.ย.2564 เวลา 06.00 น. - 22.00 น.)จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 28 มิ.ย. 2564 เวลา 22.00 น. ซึ่งถือเป็นการสละสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่ได้รับสิทธิทันที
สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป (ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไป ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยไม่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์) ผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองหรือวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และผู้ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น. – 22.00 น.
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไปและผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ในวันและเวลาเดียวกัน โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตามที่ต้องการเข้าร่วม หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ โดยธนาคารกรุงไทยฯ จะช่วยติดตั้งและแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า