'จับคู่กู้เงิน' 7 วัน ร้านอาหารแห่กู้เงินแล้วกว่า 3,000 ราย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้า โครงการ“จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับร้านอาหารที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 -14 มิ.ย. 2564  เพื่อให้ร้านอาหารทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 120,000 ร้าน ที่จดทะเบียนบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ของสถาบันการเงินต่างๆ  โดยมี 5 สถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคาร SME  D Bank ธนาคารกรุงไทย ธนาคาร ธ.ก.ส. และบสย. เพื่อปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี รวมทั้งเงื่อนไขผ่อนปรนอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารให้สามารถต่อลมหายใจต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ในช่วงวิกฤติโควิด

 โดยตั้งแต่วันที่ 7-14 มิ.ย.รวม 7 วัน สถาบันการเงินต่างๆได้เปิดโอกาสให้ร้านอาหารขอกู้ได้ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์  ซึ่มีร้านอาหารยื่นขอสินเชื่อ ดังนี้ ธนาคารออมสินมีผู้ยื่นขอกู้แล้วรวม 2,520 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 750 ล้านบาท ธนาคาร SME D Bank มีผู้ยื่นขอกู้ 146 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 64 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทยมีผู้ยื่นขอกู้ 98 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 43 ล้านบาท ธ.ก.ส.ยื่นขอกู้ 49 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 22 ล้านบาท ส่วน บสย.มีผู้ยื่นขอ 188 ราย โดยมีผู้ติดต่อขอสินเชื่อรวม 3,001 รายวงเงินที่ขอสินเชื่อรวมกัน 880 ล้านบาท สำหรับ บสย.ที่มีผู้ยื่นขอ 188 รายนั้นแจ้งว่ายินดีค้ำประกันให้ทุกรายที่ธนาคารปล่อยกู้ให้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  โครงการที่ออกบูธจะไปจบโครงการในวันที่ 20 มิ.ย. 2564 ที่จะถึงแต่ท่านสามารถไปที่สาขาต่างๆของสถาบันการเงินเหล่านี้ได้และในบางจังหวัดได้สั่งการให้มีการดำเนินการจัดสถานที่ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษเช่นเดียวกับที่จัดที่กระทรวงพาณิชย์ เช่น ที่จังหวัดภูเก็ตจากการไปตรวจราชการได้รับรายชื่อร้านอาหารรวม 300 กว่ารายที่ประสงค์จะยื่นขอกู้ จึงสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดภูเก็ตจัดสถานที่เป็นกรณีเฉพาะให้พบกับ 5 สถาบันการเงินสาขาที่นั่นโดยตรง ได้รับแจ้งว่าจะดำเนินการตั้งแต่วันพุธที่ 16 มิ.ย.เป็นต้นไป และจะพิจารณาข้อมูลต่อไปว่าสุดท้ายได้มีการอนุมัติวงเงินไปเท่าไหร่เพราะต้องรอให้สถาบันการเงินนั้นนั้นได้มีเวลาพิจารณาโดยพูดคุยกันแล้วว่าจะพิจารณาให้สั้นที่สุดภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยมีผู้ยื่นขอกู้ออนไลน์กับธนาคารออมสินถึง 2,326 ราย