กต. รุดช่วยเด็กไทย ถูกพ่อชาวจีน ชิงตัว-ลอบข้ามประเทศ
โฆษก กต. เร่งประสานทางการจีน รุดช่วยเหลือเด็กชายไทย ถูกพ่อชาวจีน ชิงตัวจากเชียงใหม่ ลักลอบข้ามไปยังเขตสิบสองปันนา
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือ น.ส.พิชชานันท์ หลุกแก้ว หญิงชาวไทยที่ถูกสามีชาวจีนชิงตัวบุตรชายวัย 5 ขวบ จากจังหวัดเชียงใหม่ ลับลอบกลับไปยังจีนว่า สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิงได้เข้าพบหารือกับสำนักการต่างประเทศ และสำนักงานความมั่นคง เขตปกครองตนเองชนชาติไทสิบสองปันนา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 เพื่อหาทางออกเรื่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนได้นำบุตรชายของ น.ส.พิชชานันท์ มาพบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ใหญ่ พบว่า "เด็กมีสุขภาพแข็งแรง และปลอดภัยดี"
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกจาก น.ส.พิชชานันท์ว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 อดีตสามีชาวจีน ได้ชิงตัว บุตรชายอายุ 5 ขวบ จากตนมารดา ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ และพา บุตรชายลักลอบเดินทางกลับไปยังประเทศจีน ผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมาย โดยอดีตสามีชาวจีนและ น.ส.พิชชานันท์ ได้หย่าขาดกันตามกฎหมายแล้ว และศาลได้ให้ทั้งสองฝ่ายทำสัญญาตกลงร่วมกันเรื่องการเลี้ยงดูบุตร
สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้มีหนังสือถึงสำนักงานการต่างประเทศและกรมความมั่นคงสาธารณะ มณฑลยูนนาน ลงวันที่ 30 เมษายน 2564 เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบและติดตามตัว
ต่อมา สำนักการต่างประเทศฯ มีหนังสือตอบกลับถึงสถานกงสุลใหญ่ฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน แจ้งว่า พบอดีตสามีของ น.ส. พิชชานันท์ และบุตรชายที่ด่านต่าลั่ว ในเขตสิบสองปันนา โดยอดีตสามี เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่จีนเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 และทั้งคู่ได้เข้าสู่กระบวนการกักกันตัวที่สถานกักกันตำบลต่าลั่วแล้ว ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ได้รับการปล่อยตัว
ก่อนหน้านี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานแจ้งให้ น.ส.พิชชานันท์ ทราบความคืบหน้ามาโดยตลอดและแนะนำให้ติดต่อกับตำรวจภูธรภาค5เจ้าของคดีในไทย ให้เริ่มกระบวนทางกฎหมายในการติดตามตัวบุตรชาย
ในส่วนของกระบวนการทางกฎหมาย สำนักอัยการสูงสุดแจ้งว่า ได้รับคำขอความร่วมมือทางอาญาจากตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการต่อไป